รีเซต

WICEต่างชาติใช้บริการ ไฮซีซันดันครึ่งหลังเด้ง

WICEต่างชาติใช้บริการ ไฮซีซันดันครึ่งหลังเด้ง
ทันหุ้น
26 กรกฎาคม 2565 ( 05:30 )
86
WICEต่างชาติใช้บริการ ไฮซีซันดันครึ่งหลังเด้ง

#WICE #ทันหุ้น – WICE มองดีมานด์ขนส่งทางทะเล-ครอสบอร์เดอร์-อากาศ ขยายตัว ลูกค้าต่างชาติแห่เข้าใช้บริการ ชี้ราคาน้ำมันผันผวนไม่กระทบต้นทุน มั่นใจบริหารจัดการได้ดี เตรียมปิดดีลพันธมิตรอีคอมเมิร์ซเร็วๆ นี้ ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังโตเด่น รับไฮซีซัน มั่นใจรายได้เข้าเป้า 9 พันล้านบาท

 

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า มองความต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศยังคงมีอยู่มาก ทั้งทางทะเล (Sea Freight) และขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการคลายล็อกดาวน์ของประเทศจีน และหากว่าสหรัฐอเมริกามีการลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน รวมถึงไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากระทบรุนแรง ก็คาดว่าอัตราการใช้บริการขนส่งจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้

 

โดยธุรกิจ Sea Freight ปัจจุบันมีปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าต่างประเทศและโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดสหรัฐ ประกอบกับจากการเข้าไปขยายสำนักงานในต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง และจีน (4 มณฑล ได้แก่ เซี่ยงไฮ้, กวางโจว, เซินเจิ้น และ หนิงโป) ในช่วงที่ผ่านมา รวมกว่า 9 แห่ง ทำให้ในตอนนี้บริษัทได้รับสัญญาจ้างขนส่งใหม่เข้ามาเพิ่มมากขึ้น

 

*ครึ่งปีแรกผลงานดี

 

อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความสามารถในการรองรับความต้องการขนส่งระหว่างประเทศกลุ่มอาเซียน-จีน และจีน-สหรัฐ ตลอดจนรองรับการย้ายฐานการผลิตของจีนกลับมาไทย เป็นต้น อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีแรก 2565 บริษัทสามารถขนส่งสินค้าทางทะเลได้แล้วมากกว่า 5,091TEUS ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของเป้าหมายทั้งปี 2565 ที่วางไว้ที่ไม่น้อยกว่า 10,000 TEUS จากปีก่อนที่ทั้งปีทำได้ 7,000 TEUS

 

ขณะที่ธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีเช่นเดียวกัน เนื่องจากการให้บริการขนส่งทางรถไฟ (Road-Rail Service) ซึ่งเป็นทางเลือกสามารถช่วยลดปัญหาการติดค้างของสินค้าหน้าด่านศุลกากรได้มาก ทำให้ลูกค้าจำนวนมากหันมาใช้บริการขนส่งดังกล่างเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

และหากว่ามาตรการล็อกดาวน์ของประเทศจีนมีความผ่อนคลายมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ ก็คาดว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการให้บริการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่อย่างไรก็ดี มองว่าการเติบโตของ Air Freight ในปีนี้จะดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนแน่นอน อย่างไรก็ดี ด้วยการขยายตัวของการขนส่งทางทะเล ขนส่งสินค้าข้ามแดน และขนส่งสินค้าทางอากาศ ทำให้คาดว่าแนวโน้มธุรกิจในไตรมาสที่สามปีนี้จะขยายตัวได้ดีต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

 

*ดีลพันธมิตรใหม่

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร เป็นผู้จัดจำหน่ายและบริหารช่องทางการขาย e-Commerce แบบครบวงจรของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดมีความชัดเจนในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 นี้ ซึ่งหากเป็นไปตามคาดจะช่วยต่อยอดการเติบโตของบริษัทให้สามารถขยายบริการขนส่งได้มากขึ้น ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการศึกษาทั้งรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) กับบริษัทที่ทำธุรกิจด้านโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มเติมอีกด้วย

 

สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2565 มองว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 เนื่องจากเป็นไฮซีซันของธุรกิจ ประกอบกับด้วยโรคระบาดที่คลายความรุนแรงลง เศรษฐกิจหลายประเทศทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น และมั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปี 2565 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 20% จากปีก่อน หรือมีรายได้แตะที่ระดับ 9,000 ล้านบาท

 

ส่วนปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนโลจิสติกส์นั้น บริษัทจะพยายามบริหารจัดการและเตรียมแผนการบริหารต้นทุนล่วงหน้า โดยอาจมีการปรับราคาขึ้นตามต้นทุนราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อรักษาอัตราการทำกำไรของบริษัทให้อยู่ในเกณฑ์ดีสม่ำเสมอ ซึ่งมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะยังคงทำได้ดีต่อไป

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง