รีเซต

"วรภัค" รัฐมนตรีช่วยคลัง เตือน "ชัตดาวน์สหรัฐฯ" เสี่ยงกระทบไทย ค่าเงินบาท-ส่งออก-ท่องเที่ยว

"วรภัค" รัฐมนตรีช่วยคลัง เตือน "ชัตดาวน์สหรัฐฯ" เสี่ยงกระทบไทย ค่าเงินบาท-ส่งออก-ท่องเที่ยว
TNN ช่อง16
2 ตุลาคม 2568 ( 19:16 )
3

“วรภัค ธันยาวงษ์” รัฐมนตรีช่วยคลัง เตือนจับตาสถานการณ์ "ชัตดาวน์สหรัฐฯ" ยืดเยื้อ เสี่ยงกระทบไทย ค่าเงินบาทผันผวน ส่งออก-ท่องเที่ยวชะลอ


นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Vorapak Tanyawong” ถึงประเด็น "US Government Shutdown 2025" และผลกระทบต่อไทย โดยระบุว่ารัฐบาลสหรัฐฯเพิ่งปิดทำการ (Shutdown) หลังสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณทันเส้นตาย 1 ตุลาคม 2567 ส่งผลทำให้บริการของรัฐที่ไม่จำเป็น ต้องหยุดชะงัก มีเจ้าหน้าที่ราว 750,000 คนถูกสั่งพักงาน ส่งผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจในประเทศทันที


1.ทำไมถึงเกิด Shutdown ?


เพราะรัฐบาลสหรัฐต้องผ่านกฎหมายงบประมาณทุกปี แต่รอบนี้ทั้งสองพรรคไม่ตกลงกัน พรรครีพับลิกันต้องการออกมาตรการชั่วคราว (Continuing Resolution) คงงบฯไปจนถึง 21 พฤศจิกายน 2568 แต่พรรคเดโมแครตยืนยันต้องมีการขยายสิทธิประกันสุขภาพไปด้วย เมื่อเจรจาล่มกลางทำเนียบขาว รัฐบาลจึงปิดทำการทันที



2.ผลกระทบภายในสหรัฐ


หน่วยงานหลายแห่งปิด รวมถึงอุทยานแห่งชาติ ศุลกากร และหน่วยงานสถิติแรงงาน (BLS) ส่งผลให้รายงานการจ้างงานเดือนกันยายนเลื่อนออกไป กระทบตลาดแรงงานและการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่กำลังพิจารณาลดดอกเบี้ย โดยรัฐบาลทรัมป์ส่งสัญญาณว่า Shutdown รอบนี้อาจไม่ใช่การ “พักงานชั่วคราว” แต่เป็นการ “ปลดถาวร” ข้าราชการบางส่วน และจะเป็นเหตุทำให้ตลาดแรงงานสหรัฐฯอ่อนแอหนักขึ้น


สำหรับผลกระทบเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับระยะเวลา เช่น  ครั้งก่อน (2018-2019) ทำ GDP หายไป 11 พันล้านดอลลาร์ และ 3 พันล้านดอลลาร์ไม่กลับมาเลย




3.ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อบานปลายอาจจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยได้


จับตา"ค่าเงินบาท" และตลาดการเงิน  นักลงทุนอาจผันเงินไปหาสินทรัพย์ปลอดภัย ค่าเงินผันผวน ตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดัน ขณะที่การส่งออก อาจมีผลต่อคำสั่งซื้อจากสหรัฐฯ เสี่ยงชะลอออกไปก่อน โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุตสาหกรรม อีกทั้งศุลกากรสหรัฐที่ทำงานล่าช้าอาจทำให้สินค้าค้างท่าเรือ รวมไปถึงการท่องเที่ยว เพราะหากผู้บริโภคอเมริกันระมัดระวังการใช้จ่าย การเดินทางท่องเที่ยวอาจลดลง

และยังมีผลต่อความเชื่อมั่นการลงทุน  จากความไม่แน่นอนในสหรัฐฯจะเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย แต่ก็เปิดโอกาส หากธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด เงินทุนบางส่วนอาจไหลกลับเข้ามาในภูมิภาค


4.แนวทางที่ไทยควรเตรียมรับมือหากสถานการณ์ลุกลามบานปลาย


ดูแลเสถียรภาพค่าเงิน โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องพร้อมใช้เครื่องมือดูแล FX ไม่ให้กระทบภาคส่งออก/นำเข้า พร้อมด้วยการบริหารความเสี่ยงด้านส่งออก โดยหาตลาดเสริม (เช่น จีน อาเซียน ตะวันออกกลาง) และประสานทูตพาณิชย์กับฝ่ายสหรัฐ หากมีปัญหาติดขัดด้านศุลกากร และต้องเตรียมมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ เช่น มาตรการ Soft Landing สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับ SMEs และ FX Hedging สำหรับผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากตลาดสหรัฐ 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง