สาว2ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ตร.พ่อแฟนหนุ่มถีบตกจยย.ดั้งจมูกพัง พ้อตัดใจเลิก คบกันแบบหลบๆซ่อนๆ
สาว2ยันเอาเรื่องถึงที่สุด หลังโดน ตร.พ่อแฟนหนุ่มถีบตกจยย.ดั้งจมูกพัง พ้อตัดใจเลิก คบกันแบบหลบๆซ่อนๆ เผยฝั่งคู่กรณีถึงขั้นขู่เอาชีวิต
จากกรณีที่ นายธีรพัฒน์ สาวประเภทสอง อายุ 21 ปี มีปากเสียงทะเลาะกับแฟนหนุ่ม อายุ 19 ปี ก่อนถูกพ่อของแฟนหนุ่มซึ่งเป็นตำรวจทางหลวง ทำร้ายร่างกายถีบจนตกรถจยย.ได้รับบาดเจ็บ ต่อมามีการโทรศัพท์เจรจาไกล่เกลี่ยกัน แต่ทางครอบครัวผู้เสียหายยืนยันเอาเรื่อง และเข้าแจ้งความที่สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ เะื่อดำเนินคดีถึงที่สุด โดยทางผู้เสียหาย บาดเจ็บตามร่างกาย ดั้งจมูกผิดรูป อาจต้องศัลยกรรมใหม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 5 พ.ค. 2565 นายธีรพัฒน์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ทางฝั่งคู่กรณี ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อขอเจรจาตกลงไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.ช้างเผือก แต่ทางตนเองไม่ยอมเนื่องจากตอนนี้ทางครอบครัว ทั้งพ่อและแม่ เห็นตนเองบาดเจ็บจึงต้องการที่จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ทางฝั่งของตนเองติดต่อขอให้ชดใช้เพียงค่าเสียหายของโทรศัพท์ไอโฟนมูลค่า 4 หมื่นบาท ส่วนการบาดเจ็บต่างๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องทะเลาะกันของสองคน แต่กลับมาเจอทำร้ายและข่มขู่ซ้ำ
ซึ่งตอนนี้ก็ให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอน แต่ที่ห่วงคือเรื่องของความปลอดภัยของตนเอง ตอนนี้ต้องเปลี่ยนที่อยู่ และแอบซ่อนหวั่นว่าจะถูกติดตาม โดยเฉพาะฝั่งตรงข้างที่เป็นตำรวจด้วยก็อาจจะมีเรื่องของการใช้อำนาจหน้าที่มาช่วยเหลือทางคดี ส่วนความสัมพันธ์ของตนเองกับแฟนหนุ่มก่อนหน้านี้ก็ต้องยอมรับว่ารักกัน และคนหาเป็นแฟนกัน แต่ต้องแอบๆซ่อนๆ เนื่องจากทางฝั่งครอบครัวของแฟนหนุ่มเองไม่ยอมรับที่ตนเองเป็นสาวประเภทสองด้วย
มาถึงตอนนี้คงต้องตัดใจเลิกรากันเด็ดขาด เรื่องของคดีตอนนี้ก็ได้ไปให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว และต้องไปตรวจร่างกายเพิ่ม เนื่องจากดั้งจมูกที่ทำศัลยากรรมมานั้นเจ็บหนักที่สุด ดั้งจมูกผิดรูป มีร่องรอยฉีกขาด ต้องไปตรวจซ้ำ ถ้าหากแพทย์ระบุว่าเจ็บหนักอาจจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมที่ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตนเองก็ต้องทำศัลย์กรรมรักษาอีกรอบ ทั้งๆที่ทำมาเสียเงินหมดไปเป็นแสน
รวมทั้งตอนนี้ตนเองก็ต้องเสียโอกาสหยุดงานที่ทำซึ่งเป็นทั้งนางแบบอิสระ ทำงานพริตตี้เอ็มซี ต่างๆ ก็ไม่สามารถไปทำงานได้ทั้งจากการบาดเจ็บ และใบหน้าที่ดั้งจมูกผิดรูปไปในตอนนี้และอาจจะต้องรักษาตัวนานหลายเดือน
สุดท้ายอยากให้ตำรวจที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงมาช่วยดูแลคดี เนื่องจากคู่กรณีเป็นตำรวจ อยากให้มาดูเรื่องของพฤติกรรมที่ทำกับประชาชน ทั้งๆที่เป็นเจ้าหน้าที่แต่มีพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรง และยังมีการข่มขู่ถึงขั้นเอาชีวิตด้วย เกรงว่าตนเองกับครอบครัวอาจจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากต้องเดินหน้าสู้คดีจนถึงที่สุด