จีน เผยไตรมาส 3/68 เศรษฐกิจโตเพียง 4.8% อ่อนแอที่สุดในรอบ 1 ปี

จีน เผยไตรมาส 3/68 เศรษฐกิจโตเพียง 4.8% อ่อนแอที่สุดในรอบ 1 ปี สงครามการค้า-วิกฤตอสังหาฯ
#ทันหุ้น #SET #CHINA สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน รายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3/2568 ขยายตัว 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 1 ปี และชะลอตัวลงจากไตรมาส 2 ที่มีการขยายตัว 5.2% ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
แต่เป็นอัตราการเติบโตที่ ชะลอตัวลงจาก 5.2% ที่ทำได้ในไตรมาส 2 ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับตัวเลขที่ไม่คาดคิดและน่ากังวลที่สุด นั่นคือ การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed-Asset Investment - FAI) ซึ่งหดตัวลง 0.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม - กันยายน) การหดตัวนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และส่งสัญญาณถึงแรงกดดันรุนแรงต่อการเติบโตในไตรมาสสุดท้ายของปี
การหดตัวของ FAI ซึ่งรวมถึงการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน บ่งชี้ว่าความพยายามของปักกิ่งในการเปลี่ยนผ่านจากการพึ่งพาการก่อสร้างไปสู่การบริโภคอาจกำลังเผชิญกับอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก วิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่ยังคงฉุดรั้งเศรษฐกิจอย่างหนัก ขณะที่ ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) กลับทำผลงานได้ดีเกินคาดที่ 6.5% ในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยประคองภาพรวมไว้ได้
Key Takeaways: สรุปประเด็นหลัก
1. การชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic Slowdown)
- GDP ชะลอตัว (YoQ): เศรษฐกิจจีนขยายตัว 4.8% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ แต่ชะลอตัวลงจากอัตรา 5.2% ในไตรมาส 2 เหตุผล: สาเหตุหลักมาจากการหดตัวอย่างรุนแรงของกิจกรรมการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ
2. วิกฤตการณ์ในภาคการลงทุน (Investment Crisis)
- Fixed-Asset Investment (FAI) ติดลบ: การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (FAI) หดตัวลง 0.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.) โดยนักวิเคราะห์ นาย Zhiwei Zhang จาก Pinpoint Asset Management ชี้ว่าการลดลงนี้ "หายากและน่าตกใจ" และเป็นแรงกดดันขาลงต่อ GDP ในไตรมาส 4
- Property Investment ดิ่งเหว (YoY): การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์หดตัวลึกลงอีก โดย ลดลง 13.9% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี เทียบกับที่ลดลง 12.9% ในช่วง 8 เดือนแรก ซึ่งตัวเลขนี้เป็นสาเหตุหลักที่ดึงให้ FAI โดยรวมติดลบ
3. ความยืดหยุ่นของภาคการผลิตและการส่งออก (Manufacturing Resilience)
- Industrial Production แข็งแกร่ง (YoY): ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5% และเพิ่มขึ้นจาก 5.2% ในเดือนก่อนหน้า เหตุผล: ตัวเลขที่แข็งแกร่งนี้สะท้อนถึงการส่งออกที่ยังคงมีความยืดหยุ่นสูง แม้มีความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ
4. อุปสงค์ภายในประเทศและการเงิน (Domestic Demand and Finance)
- Retail Sales ชะลอตัว (YoY): ยอดค้าปลีกในเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 3% ซึ่งชะลอตัวลงจาก 3.4% ในเดือนสิงหาคม สะท้อนว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงเปราะบาง
- ภาวะเงินฝืด (Deflationary Pressure): แม้ Core CPI จะเร่งตัวขึ้น แต่ Headline CPI กลับติดลบ 0.3% ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินฝืด (Deflation) ยังคงอยู่ โดยเฉพาะในภาคสินค้าและบริการบางส่วน
- นโยบายการเงินคงที่: ธนาคารกลางจีนยังคง อัตราดอกเบี้ย LPR (Loan Prime Rate) ไว้เท่าเดิมเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน โดย LPR 1 ปี อยู่ที่ 3% และ LPR 5 ปี (อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสินเชื่อที่อยู่อาศัย) อยู่ที่ 3.5%
ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 ของจีนเปิดเผยความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างภาคส่วนที่ยังคงแข็งแกร่งและภาคส่วนที่เป็นจุดอ่อนเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสียหายที่เกิดจากวิกฤตหนี้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นจุดที่ต้องใช้ความพยายามในการจัดการอย่างเร่งด่วน
ตัวเลขสำคัญ และการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
- GDP (YoY): อัตราการเติบโต ลดลง 0.4% จาก 5.2% ในไตรมาส 2 มาอยู่ที่ 4.8% ในไตรมาส 3
- Fixed-Asset Investment (YoY): เปลี่ยนจากที่คาดว่าจะขยายตัว 0.1% กลายเป็นการ หดตัว 0.5% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี
- Property Investment (YoY): อัตราการหดตัว เพิ่มขึ้น 1.0% จาก 12.9% (8 เดือน) เป็น 13.9% (9 เดือน) เหตุผล: ความล้มเหลวในการชำระหนี้ของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและผู้พัฒนาลดลงอย่างต่อเนื่อง และทำให้โครงการก่อสร้างใหม่ต้องชะงัก
- Industrial Production (YoY): อัตราการเติบโต เพิ่มขึ้น 1.3% จาก 5.2% ในเดือนสิงหาคม มาอยู่ที่ 6.5% ในเดือนกันยายน เหตุผล: ตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดนี้เป็นผลจากความต้องการสินค้าส่งออกที่ยังคงแข็งแกร่ง รวมถึงการที่โรงงานจีนยังคงมีขีดความสามารถในการผลิตสูง
นาย Zhiwei Zhang ประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Pinpoint Asset Management ระบุว่า การหดตัวของ FAI นั้น "หายากและน่าตกใจ" เนื่องจากรัฐบาลจีนพยายามใช้การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการผลิตเพื่อชดเชยการทรุดตัวของอสังหาริมทรัพย์ การที่ FAI ยังคงติดลบเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า แรงขับเคลื่อนจากนโยบายกระตุ้นไม่เพียงพอ หรือ ความเชื่อมั่นของภาคเอกชนลดลงอย่างรุนแรง
ในส่วนของกำลังซื้อนั้น ยอดค้าปลีกที่เติบโต 3% ในเดือนกันยายน แม้จะสอดคล้องกับที่คาดไว้ แต่ก็ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า และเป็นสัญญาณที่สอดคล้องกับภาวะเงินฝืด โดย Headline CPI ที่ ติดลบ 0.3% (YoY) แสดงให้เห็นว่าอุปสงค์ในประเทศอ่อนแอเกินกว่าจะดูดซับกำลังการผลิตที่แข็งแกร่งได้ ทำให้สินค้าคงคลังและราคาทั่วไปอยู่ในระดับต่ำ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
