สุกี้ตี๋น้อย ชี้ไม่ร่วม "คนละครึ่งพลัส" เหตุจดทะเบียนบริษัท

หลังเกิดกระแสในสังคมออนไลน์ตั้งคำถามว่า เหตุใดแบรนด์ที่มีสาขากระจายทั่วประเทศจึงไม่ปรากฏในรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน

เพจสุกี้ตี๋น้อย ระบุเหตุไม่เข้าร่วมโครงการ เนื่องจากจดทะเบียนบริษัท จำกัด ขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ลักษณะของผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่ประชาชนพึงสังเกตได้ มี 3 ลักษณะคือ

1.ร้านอาหาร 

2.ร้านเครื่องดื่ม 

3.ร้านขายสินค้าทั่วไป 

ทั้งนี้ ร้านค้าทั้ง 3 แบบ ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ เจ้าของร้านมีสัญชาติไทย, ผู้ประกอบการไม่ใช่นิติบุคคล, เป็นร้านธงฟ้าฯ ที่ไม่ใช่นิติบุคคล เว้นแต่เป็นร้านธงฟ้าฯ ของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542, เป็นร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง ตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547, เป็นร้านค้าของวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548

ข้อสังเกตเพิ่มเติม คือ ร้านค้า ต้องไม่เป็นร้านสะดวกซื้อที่มีธุรกิจแฟรนไชส์ 

และร้านค้าต้องเป็นร้านที่มีการประกอบที่สามารถตรวจสอบได้

ขณะเดียวดัน หากไม่เป็นธุรกิจประเภทร้านค้าต่าง ๆ ประชาชนสามารถใช้สิทธิกับธุรกิจอื่น ๆ ได้อีก ดังนี้ ร้านนวด ร้านสปา ร้านทำเล็บ ทำผม 

โดยธุรกิจดังกล่าว ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ที่กำหนด คือ 

เจ้าของธุรกิจมีสัญชาติไทย

เป็นผู้ประกอบการบริการที่ไม่ใช่นิติบุคคล 

เป็นผู้ประกอบการบริการของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตาม พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ 

เป็นผู้ประกอบการบริการของวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ

มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่ง และตรวจสอบได้ 

กรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย