สหรัฐฯ พึ่งพาสินค้านำเข้าจาก EU สูงกว่าจีน

สถาบันเศรษฐกิจ IW ของเยอรมนี เปิดเผยว่า สหรัฐฯ พึ่งพาสินค้านำเข้าจากสหภาพยุโรป (EU) เพิ่มขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ แซงหน้าการนำเข้าจากจีนทั้งในแง่มูลค่าและปริมาณสินค้า 

สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจาก EU เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา โดยจำนวนกลุ่มสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจาก EU มีสัดส่วนอย่างน้อยร้อยละ 50 อยู่ที่กว่า 3,100 กลุ่มในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากกว่า 2,600 กลุ่มในปี 2553

ผลการศึกษาดังกล่าวสะท้อนว่า “เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปที่เป็นฝ่ายบริหารของ EU อาจมีบทบาทที่เข้มแข็งในการหารือเรื่องมาตรการภาษีกับสหรัฐฯ ที่นำไปสู่การจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าส่วนใหญ่จาก EU ร้อยละ 15

มูลค่าการนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ จาก EU ที่รวมถึงผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แตะ 2.87 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.5 เท่าจากเมื่อปี 2553

ในทางกลับกัน สหรัฐฯ นำเข้าสินค้าจากจีนในปีที่แล้วจำนวน 2,925 กลุ่มสินค้า และมีมูลค่าการนำเข้ารวม 2.47 แสนล้านดอลลาร์

รายงานระบุด้วยว่า ตัวเลขการนำเข้าสะท้อนว่าสหรัฐฯ พึ่งพาจีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางความพยายามลดความเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจาก EU เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมีแนวโน้มจะทดแทนได้ยากในระยะสั้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ EU ควรคำนึงถึงหากความตึงเครียดทางการค้ามีความรุนแรงมากขึ้น

ขณะที่ EU อาจจำกัดการส่งออกสินค้าที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นทางเลือกสุดท้าย

รายงานระบุด้วยว่า แม้ข้อมูลการค้าเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถชี้ได้ว่าสินค้าเหล่านี้สำคัญต่อผู้บริโภคสหรัฐฯ มากขนาดไหน แต่ก็สะท้อนว่ามาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ เป็นการทำร้ายตัวเอง