หนุ่ม ถูกหลอกลงทุนหุ้นออนไลน์ สูญกว่า 7 แสน จากแอพพ์หาคู่ แม่ร่ำไห้ทุกวัน สูญเงินเก็บ
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม นายมงคล สีมา ผู้ใหญ่บ้านแสนสุข หมู่ 3 ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้นำผู้สื่อข่าวไปพบครอบครัวของ นายสรชัย คนดี อายุ 46 ปี ที่พักอาศัยอยู่กับพ่อ-แม่ วัยชราคือ นางจันทร์ศรี คนดี อายุ 71 ปี และ นายอง คนดี อายุ 82 ปี หลังจากที่นายสรชัยบ่อ เล่นโซเชียลฯ หาคู่ ถูกมิจฉาชีพหลอกเทรดหุ้นออนไลน์สูญเงินกว่า 7 แสนบาท
นายสรชัย ได้เล่าให้รายละเอียดว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมาขณะเข้าไปเล่นเฟซบุ๊ก เห็นแอพพ์ “หาเพื่อน หาคู่” และเห็นบัญชีผู้ใช้ชื่อ “ปู” จึงเข้าไปพูดคุยก่อนชวนกันติดต่อทางไลน์ จากนั้นผู้ใช้ชื่อเป็นภาษาไทยว่า “ปู” ได้ชักชวนให้ลงทุนเล่นหุ้นออนไลน์ด้วยการร่วมเทรดหุ้น จึงส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปให้ เช่น ชื่อ นามสกุล บัญชีธนาคาร ต่อมาก็ถูกชักชวนให้สมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์ที่อ้างว่าใช้เพื่อดูหุ้น-เงินทุน และผลกำไร ก่อนให้ตนโอนเงินเข้าไปลงทุนก้อนแรก ช่วงต้นเดือนกันยายนผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยของผู้ที่ใช้ชื่อว่า นายภูมินาท ขันเดช จำนวน 500 บาท
กระทั่งต่อมา “ปู” ก็ได้ติดต่อกลับมาว่าให้ตรวจดูเงินทุน-ผลกำไรในเว็บไซต์ เมื่อตนเข้าไปดูปรากฏว่าจำนวนเงินเพิ่มเป็น 600 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 100 บาท ทำให้ตนเชื่อถือและยอมลงทุนในวันต่อไปอีก โดยได้ใช้บัญชีธนาคารหลายธนาคารคือธนาคารไทยพาณิชย์ ,ธนาคารกรุงไทย ,ธนาคาร ธ.ก.ส. โอนเงินไปลงทุนอีก 1 ครั้งจำนวน 3,000 บาท และได้เงินเพิ่มขึ้นมาอีก 3,600 บาท เพิ่มขึ้น 600 บาท ทำให้ตนยิ่งเชื่อมั่นจึงโอนไปเพิ่มอีก 50,000 บาท
จากนั้นได้เข้าไปดูในเว็บไซต์พบว่าได้ผลกำไรรวม 70,000 บาท แต่ผู้ใช้ชื่อ “ปู” แจ้งว่าต้องเพิ่มวงเงินลงทุนอีก 1 แสนบาทเพื่อให้เงินทุนและกำไรครบ 2 แสนบาทจึงจะสามารถถอนเงินคืนได้ ตนจึงโอนเงินไปอีกครั้งช่วงกลางเดือนกันยายน จำนวน 1 แสนบาท แต่ปรากฏว่าถอนเงินกลับคืนมาไม่ได้
ต่อมาผู้ใช้ชื่อ “ปู” แจ้งตนว่าหากอยากจะถอนเงินต้องโอนเพิ่มอีก 2.5 แสนบาท โดยตนก็โอนโดยเอาเงินสดกับแม่ คือนางจันทร์ศรี ที่เก็บไว้ 2 แสนบาท และเงินในบัญชีธนาคาร ธ.ก.ส.ของนายอง ที่เป็นพ่อโอนไป จากนั้น “ปู” ก็แจ้งมาอีกว่าหากจะถอนเงินทั้งหมดได้ต้องโอนอีก ตนจึงนำเงินทั้งหมดในบัญชีของพ่อโอนไปจนเกลี้ยงบัญชีรวมทั้งเงินตนเองรวมทั้งหมด 7 แสนบาท โดยมียอดเงินในเว็บไซต์เทรดหุ้นมีเงินรวม 9 แสนบาทแต่ตนไม่สามารถถอนได้ โดย “ปู” ยังคงบอกว่าให้โอนไปอีกจึงจะถอนได้แต่ตนไม่มีเงินโอนแล้วจึงคิดว่าถูกหลอกแน่นอนจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา
นางจันทร์ศรี กล่าวว่าตนไม่รู้เรื่องว่าลูกชายนำเงินไปทำอะไร พอมาทราบว่าลูกชายถูกหลอกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่นั่งร้องไห้ทุกวันเพราะเสียดายเงิน เงินของตนเก็บไว้ทั้งชีวิต 2 แสนบาทก็ให้ลูกไปหมด รวมทั้งเงินของสามีตนก็ให้ลูกไปหมดบัญชีจำนวน 4 แสนบาท ตอนนี้ทั้งครอบครัวเดือดร้อนมากไม่รู้จะทำอย่างไร
นายสรชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนอยากฝากเตือนให้กรณีตนเป็นข้อเตือนใจโดยเฉพาะการเล่นสื่อสังคมออนไลน์ ต้องระวังถูกหลอกเหมือนตน ขอให้กรณีของตนเป็นข้อเตือนใจในการเล่นสื่อสังคมออนไลน์ทุกรูปแบบ