ชาวประมง แห่ตักแมงกะพรุนขาย โกยรายได้งาม ทำเงินสะพัดวันละแสน
ชาวประมง จ.ตรัง แห่ตัก แมงกะพรุน ขายพ่อค้า โกยรายได้หลักพันถึงหมื่นบาท ทำเงินสะพัดในชุมชนกว่า 1 แสนบาทต่อวัน พลิกวิกฤตช่วงโควิด
วันที่ 10 พ.ค.2564 ที่ม.9 บ้านปากคลอง ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง ชาวประมงชายฝั่งได้แล่นเรือออกไปกลางทะเล เพื่อเก็บแมงกะพรุนหัวโล้น ที่ลอยอยู่เหนือน้ำกลางทะเลนับแสนตัวหน้ามรสุม ด้วยเครื่องมือเพียงอันเดียว ลักษณะคล้ายกับคราดถากหญ้า โดยนำใส่ไว้ในเรือหางยาวจนเต็มลำ แล้วแล่นกลับมายังชายฝั่ง
ซึ่งมีพ่อค้ารับซื้ออยู่ในพื้นที่ประมาณ 3 เจ้า เป็นทั้งคนในพื้นที่ และพ่อค้าจากต่างจังหวัดทั้งสตูล กระบี่ และ สุราษฎร์ธานี ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้ชาวประมงพื้นบ้านต่อลำวันละ 5,000 บาท ถึงหมื่นบาท รวมทั้งพ่อค้าที่รับซื้อก็สามารถสร้างรายได้หลักแสนบาทต่อการนำไปขาย 1 ครั้ง ส่งผลทำให้เงินแพร่สะพัดในชุมชนกว่าแสนบาทต่อวัน
จากการสอบถาม นายเกษม บุญญา อายุ 52 ปี หรือ ผู้ใหญ่เขียว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านปากคลอง ต.บ่อหิน ซึ่งเป็นหนึ่งในพ่อค้าที่รับซื้อ กล่าวว่า ต้องขอแสดงความดีใจกับการประมงพื้นบ้านในการประกอบอาชีพครั้งนี้ ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาส หลังจากโควิด-19 ได้รับผลกระทบทำให้ต้องเปลี่ยนวิถีจากการประกอบอาชีพทั่วไป เป็นการประกอบอาชีพจับแมงกะพรุน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงมรสุมจากฝั่งตะวันตกใน 1 ปีจะเข้ามาในชายฝั่งครั้งหนึ่ง
นายเกษม กล่าวต่อว่า ปีนี้อาจจะเข้ามาเยอะ ทำให้แมงกะพรุนเข้ามาสร้างรายได้ให้กับชาวประมงพื้นบ้านโดยเฉพาะคนชายฝั่งเป็นอาชีพที่สร้างรายได้พอสมควร สำหรับแมงกะพรุนที่จับมาได้นั้น เป็นแมงกะพรุนหัวโล้น แมงกะพรุนที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ ในทางการวิจัยเป็นอาหารที่สามารถกระตุ้นเลือดลมและสามารถสร้างภูมิต้านทานได้
"เราจะนำส่งให้ตลาดทั่วไปทั้งไทยและต่างประเทศ แต่ตอนนี้ติดช่วงโควิดเราต้องรอตลาดเปิดขายต่างประเทศก่อน สำหรับรายได้ก็จะขึ้นกับขนาดเรือ อย่างน้อยอยู่ที่วันละพันกว่าบาท หรือหากเรือมีขนาดใหญ่ก็จะตกอยู่ 4,000-5,000 บาท หรือไปถึงหลักหมื่นบาทบาทต่อลำ ซึ่งเป็นรายได้ของเรือประมงที่ได้ ราคาก็จะขึ้นอยู่กับตลาด หากกลางตลาดเปิดกว้าง ราคาก็จะสูงแต่ถ้าตลาดปิดช่วงนี้ราคาก็จะต่ำลง ช่วงนี้ราคารับซื้ออยู่ตัวละ 4-8 บาท ปีนี้และปีที่แล้วเราก็ประสบปัญหาโควิด-19 เหมือนกัน" นายเกษม กล่าว
นายเกษม กล่าวต่อว่า โดยปีที่แล้วเราจะแก้ปัญหาด้วยการทำตลาดที่ค่อยเป็นค่อยไปมีการพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการแมงกะพรุนในการซื้อขายสามารถแลกเปลี่ยนกันก็อยู่กันได้ ส่วนใหญ่แล้วทางประเทศจีนจะมีความต้องการเยอะ แมงกะพรุนเป็นสัตว์ที่มีเลือดร้อน หากใครมีเลือดอุ่นก็สามารถสร้างภูมิต้านทานสูง คนจีนจะนำมาทำเป็นยา ส่วนคนไทยจะนำมาประกอบอาหาร เช่น ยำเย็นตาโฟหรือเป็นเมนูกับแกล้ม โดยตอนนี้เริ่มเป็นที่นิยม
นายเกษม กล่าวด้วยว่า สำหรับขั้นตอนการทำแมงกะพรุน หลังจากจับมาแล้วสิ่งแรกเราต้องเอามาแล่ก่อนและนำมาผสมกับน้ำซึ่งมีส่วนผสมเป็นโซดา สารส้ม เกลือ สามารถสุกได้ตามธรรมชาติของมันและนำมาล้างขัดแยกผ่านอีก 3-4 ขั้นตอน รายได้ตอนนี้ก็ดีขึ้น เพราะเป็นช่วงมรสุมเข้ามาถือเป็นโอกาสดีของชุมชน โดยเฉพาะชายฝั่งแต่ละชายฝั่ง ไม่ว่าจะเป็น สตูล ตรัง กระบี่ พังงา รวมถึงภูเก็ตอาจจะมีผลกระทบจากโควิดแต่มีรายได้จากการประมงเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 091-108-7176 (ผู้ใหญ่เขียว)
ด้าน นายทวี ศรีใหม่พัทลุง อายุ 54 ปี ชาวประมงพื้นบ้าน กล่าวว่า ปกติตนทำอาชีพประมงอยู่แล้วสำหรับแมงกะพรุนนั้นเป็นรายได้เสริมที่ชาวประมงสามารถหาได้ แต่ตอนนี้ราคาอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะตลาดโควิดค่อนข้างปิด แต่เราก็ต้องทำเพราะหากจะหางานทำข้างนอกมันก็คงไม่ค่อยจะมี ยิ่งเป็นช่วงโควิดด้วย การลงทะเลถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ปกติทำประมงรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยออกมาก็น้อย เพราะบางช่วงติดกับช่วงลมแรง
"ส่วนการทำแมงกะพรุน ซึ่งแมงกะพรุนก็ไม่ได้ขึ้นทุกวัน ช่วงไหนที่ลมดีน้ำดีมันก็ขึ้นมาก หากลมและน้ำไม่ดีมันก็ไม่ขึ้นหรือขึ้นน้อย สำหรับรายได้ก็ตกอยู่ที่หลักพัน ไปถึงหลักหมื่นบาทต่อลำ แต่หากลำไหนต้องแบ่งกับลูกน้องด้วยก็ตกอยู่วันละ 500 ถึง 600 บาทต่อคนหลังจากที่แบ่งกันแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับขนาดลำเรือ โดยออกวันละเที่ยวเพราะต้องเฉลี่ยให้กับเรือลำอื่น ๆ ด้วย วันนี้เรามีเรือประมงอยู่ 40 ลำในพื้นที่ รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียงที่ไม่มีงานทำ ทุกคนที่เคยวิ่งเรือทัวร์นักท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบเพราะช่วงโควิด เมื่อถึงฤดูแมงกะพรุนก็หันกลับมาทำแมงกะพรุนรายได้อาจจะไม่คงที่แต่ก็พอกินพออยู่บ้าง" นายทวี กล่าว