รีเซต

เปิดเหตุผล ทำไมประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถึงเลี่ยงพบหน้า "แนนซี เพโลซี"

เปิดเหตุผล ทำไมประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ถึงเลี่ยงพบหน้า "แนนซี เพโลซี"
TNN ช่อง16
4 สิงหาคม 2565 ( 17:10 )
141

"แนนซี เพโลซี" ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เดินทางถึงเกาหลีใต้แล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางเยือน "ไต้หวัน" แต่นางเพโลซีจะไม่ได้พบกับ "ยูน ซ็อก-ยอล" ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ขณะที่ ทั่วทั้งโลกที่กำลังเฝ้าจับตามอง ว่า "เกาหลีใต้" จะมีทีท่าอย่างไรต่อการเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี




"แนนซี เพโลซี" ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ได้เดินทางออกจากเกาะไต้หวัน ต่อไปยังประเทศเกาหลีใต้ แต่ปรากฎว่า ประธานาธิบดียูน ซ็อก-ยอล ไม่ได้ออกมาให้การต้อนรับนางเพโลซีแต่อย่างใด โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการลาพักร้อน 

ซึ่งเรื่องนี้ กลายเป็นประเด็นที่กำลังถูกกล่าวถึงอย่างมากทั้งในประเทศเกาหลีใต้เอง รวมถึงทั่วทั้งโลกที่กำลังเฝ้าจับตามอง ว่า "เกาหลีใต้" จะมีทีท่าอย่างไรต่อการเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี ที่สร้างความโกรธแค้นให้กับจีนแผ่นดินใหญ่เป็นอย่างมาก

โดยในเกาหลีใต้ มีคำว่า "นุนชี" ที่ใช้ในการอธิบายถึงศิลปะอันละเอียดอ่อนของการประเมินอารมณ์ของผู้มีอิทธิพล ที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสในเกาหลีใต้ กับกรณีที่ว่า ประธานาธิบดียูน กำลังหลีกเลี่ยงที่จะพบปะกับนางเพโลซี เพื่อที่จะไม่เติมเชื้อไฟให้กับจีนมากไปกว่านี้

โดยเจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดี กล่าวปฏิเสธกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่า ปธน.ยูน จะไปร่วมต้อนรับนางเพโลซี โดยชี้ว่า ไม่มีแผนการดังกล่าว และจะไม่มีการพบปะระหว่างปธน.ยูนและนางเพโลซี  เนื่องจากอยู่ระหว่างการลาพักร้อนของเขา แต่จะเป็นการหารือผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างกันแทน

ภาพจาก Reuters

ขณะที่ ประธานสภาผู้แทนฯวัย 82 ปี ของสหรัฐฯ จะพบกับ คิม จิน-พโย ประธานสมัชชาแห่งชาติ หรือรัฐสภาเกาหลีใต้ ที่กรุงโซล ทั้งสองได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงในระดับภูมิภาคและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 

รวมถึงพบกับหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (People Power Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล รวมถึงหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านด้วย

โดยเพโลซี และคิม ได้ทำการหารือและออกแถลงการณ์ร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นที่พูดคุย แต่จะไม่เปิดโอกาสให้นักข่าวถามคำถามแต่อย่างใด  

ทั้งนี้ จะไม่มีการพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ด้วย เนื่องจากเขาอยู่ระหว่างการร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่ประเทศกัมพูชา


สำหรับกำหนดการในเกาหลีใต้ของเพโลซีในวันนี้ เธอจะไปเยือนเขตปลอดทหารชายแดนเกาหลีใต้ ที่อยู่ติดกับพรมแดนเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และทหารเกาหลีใต้และเกาหลีเหนือยืนประจันหน้ากันอยู่ในพรมแดนของตนเอง

เพโลซีจะนับเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ คนแรก ที่เยือนเขตปลอดทหารและหมู่บ้านหยุดยิงสงครามเกาหลี "ปันมุนจอม" นับตั้งแต่ที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เคยไปเยือนสถานที่แห่งนี้จากทางฝั่งเกาหลีเหนือในปี 2019

หลังเสร็จสิ้นการเยือนเกาหลีใต้ เพโลซีจะเดินทางไปยังญี่ปุ่นต่อไปในวันนี้ และญี่ปุ่นจะเป็นประเทศสุดท้ายในการเยือนเอเชีย 5 ประเทศของเธอในสัปดาห์นี้ ที่เริ่มจากสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยที่ไต้หวันไม่ได้อยู่ในกำหนดการการเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการอของเพโลซีแต่อย่างใด

ภาพจาก Reuters 

ด้าน พาร์ค วอน-กอน ศาสตราจารย์ ด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเอวา วูแมนส์ ระบุว่า กำหนดการวันหยุดของปธน.ยูน และการเตรียมการเยือนกัมพูชาของรัฐมนตรีต่างประเทศนั้น มีขึ้นก่อนที่จะมีการประกาศเดือนทางเยือนเอเชียของนางเพโลซี 

คิม ฮง-คยู ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายจีน-สหรัฐฯ มหาวิทยาลัย Ajou กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า เรื่องนี้เป็นที่ชัดเจนว่า ผู้นำสูงสุดของเกาหลีใต้ พยายามที่จะไม่ทำให้สถานการณ์การเมืองย่ำแย่ลงไปอีก 

"หากเป็นอดีตประธานาธิบดี หรือ รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ จะต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะได้พูดคุยกับเพโลซี แต่คิดว่าในช่วงเวลาเช่นนี้ รัฐบาลพยายามที่จะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และเป็นปฏิปักษ์กับจีนโดยไม่จำเป็น" คิม กล่าว

ภาพจาก Reuters

สำหรับการเดินทางเยือนเกาหลีใต้ของเพโลซีเวลานี้ มีขึ้นในช่วงที่ ปธน.ยูน กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความนิยมที่ลดลงอย่างมาก 

คณะทำงานของปธน.โจ ไบเดน พยายามนานหลายเดือนในการสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและการทูตในหลายประเทศแถบเอเชียเพื่อหวังรับมือกับจีน ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ด้านการทหารระดับสูงเยือน พร้อม ๆ กับการให้ความสนใจเกาะเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแปซิฟิก 

ตลอดจนการเยือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเมื่อเดือนเมษายน และเป็นครั้งแรกที่มีการเชิญผู้นำของทั้ง 2 ประเทศเข้าร่วมประชุมนาโต .. ทั้งหมดทั้งมวล ก็เพื่อหวังคานอำนาจกับจีนในภูมิภาค

ภาพจาก Reuters

สำนักข่าว New York Times วิเคราะห์ว่า การเยือนเอเชียของนาเพโลซี ครั้งนี้ กลับเป็นภัยคุกคามต่อความพยายามอย่างยิ่งยวดของทำเนียบขาวในการสร้างพันธมิตรในเอเชีย ที่อาจทำให้พันธมิตรยิ่้งเกิดความเคลือบแคลงว่าจะเกิดความเสียหายต่อแนวร่วมในเอเชียได้ 

ลี ซยอง-อยอน จากศูนย์จีนศึกษา มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ระบุว่า การรับมือกับการเยือนของนางเพโลเซียนั้นน่ากังวล เนื่องจาก ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ ก็แสดงให้เห็นถึงอำนาจของจีน และยังทำให้บทบาทของพันธมิตรสหรัฐฯลดน้อยลงด้วย

"การตอบโต้จากจีน กำลังกลายเป็นที่ถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนในวอชิงตัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานะของจีนที่เพิ่มมากขึ้น  .. และความเคลื่อนไหวนี้ เป็นการเจรจาทางการทูตที่ไม่ดีเอาเสียเลย" 

ไม่ต่างจากความเห็ของนักวิชาการในญี่ปุ่น เรียว ซาฮาชิ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเกียวโต ที่มองว่า "การเยือนของเพโลซี ไม่ได้เป็นประโยชน์ใด ๆ กับเราเลย .. แน่นอนว่าเราให้การสนับสนุนประชาธิปไตยของไต้หวัน และเห็นพ้องกับความพยายามของสหรัฐฯที่จะช่วยด้านกลาโหมต่อไต้หวัน รวมถึงการขายอาวุธให้ไต้หวัน แต่เรื่องนี้มันต่างกัน.. สิ่งที่เราต้องากรเห็นคือ 'สภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ'


ภาพจาก AFP

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง