5 หุ้นเด่นรัฐเก็บภาษีนำเข้าสินค้าออนไลน์ เกมเปลี่ยน! ไทยได้เปรียบต่างชาติ

บล.กรุงศรี ระบุว่า กรมศุลกากรประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าที่สั่งซื้อจากแพลตฟอร์มออนไลน์ มูลค่าตั้งแต่ 1 บาทแรก เริ่มมีผล 1 ม.ค. 2026 ครม.มีมติเห็นชอบแล้ว จากเดิมหากมูลค่าสินค้าไม่เกิน 1,500 บาท จะ ยกเว้นภาษีนำเข้า เก็บเพียงภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น
มองเป็นบวกโดยตรงต่อหุ้นค้าปลีกของไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขายสินค้าทั่วไปราคาไม่แพง และมีลักษณะสินค้าคล้ายกับสินค้านำเข้าออนไลน์อาทิ CPALL, BJC, CRC, MOSHI และ MRDIYT เนื่องจาก
1) คาดมีมาร์จิ้นดีขึ้น ความเสี่ยง Price war ลดลง เพราะภาษีจะทำให้สินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้น ส่วนต่างหรือความได้เปรียบของสินค้านำเข้าจะ ลดลง ผู้ประกอบการไทยไม่ต้องตัดหรือแข่งขันด้านราคา,
2) สินค้าออนไลน์แพงขึ้นประชาชนจะลด การซื้อเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้าทำตลาดเพิ่มยอดขาย และ
3) ค่าใช้จ่ายการตลาดและ โฆษณามีแนวโน้มลดลงช่วยหนุนกำไร
แนะนำ ซื้อ CPALL เป้าหมาย 80 บาท, BJC ซื้อ/เป้า 30 บาท, MOSHI ซื้อ/เป้า 54 บาท
โดย นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร ได้กล่าวว่า กรมศุลกากร จะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ที่จำหน่ายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) โดยจะเรียกเก็บตามอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ด่านศุลกากร ซึ่งจะเริ่มเก็บภาษีสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป
อธิบดีกรมศุลกากร เชื่อว่าภาครัฐ จะมีรายได้เพิ่มปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้าน เนื่องจากในปัจจุบันประชาชนนิยมซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ ซึ่งมีรายงานว่าในรอบปีที่ผ่านมามีสินค้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะสินค้าที่มียอดซื้อต่ำกว่า 1,500 บาท เข้าสู่ประเทศไทยกว่า 20 ล้านชิ้น เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้ไม่ต้องเสียทั้ง VAT และอากรขาเข้า ตามข้อกำหนด De minimis Value หรือเกณฑ์มูลค่าขั้นต่ำที่ได้รับยกเว้นภาษี
นายพันธ์ทอง ได้กล่าวว่า “ในตอนนี้หลายประเทศทั่วโลก ได้ยกเลิกเกณฑ์มูลค่าขั้นต่ำที่ได้รับยกเว้นภาษีแล้ว เพื่อป้องกันการเลี่ยงภาษีและปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศ และการเก็บภาษีดังกล่าวอาจกระทบราคาสินค้าอาจกระทบถึงผู้บริโภค แต่การนำเข้าสินค้าจากค่างประเทศ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยเฉพาะการจ้างงานและการใช้วัตถุดิบในประเทศ”
“นอกจากนี้เรายังมีปัญหาในการตรวจรับสินค้าเพราะสอนค้าจำนวนมากเป็นชิ้นเล็ก ดังนั้นแนวคิดในการจัดเก็บภาษีนำเข้าจากแพลตฟอร์มเหล่านี้จะสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศ ให้แข่งขันกันในสนามเดียวกัน เสียภาษีเท่ากันและจะสามารถสร้างรายได้ให้กับภาครัฐ เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3,000 ล้านบาทต่อปี”
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
