CGSI เผยเสียงสะท้อนจาก Marketing Trip ในฮ่องกงต่อหุ้นไทย

#ทันหุ้น - ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ได้พบปะลูกค้าในงาน Marketing Trip ที่ฮ่องกง วันที่ 20-21 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยังลดน้ำหนักการลงทุน (Underweight) ตลาดหุ้นไทย เนื่องจาก SET มีผลดำเนินงานไม่ดีตั้งแต่ปีที่แล้ว ทั้งนี้นักลงทุนกังวลกับการเติบโตของเศรษฐกิจของไทยที่ยังคงอ่อนตัว รวมถึงการอ่อนค่าของเงินบาทและความไม่แน่นอนทางการเมือง
ขณะที่ลูกค้าบางส่วนเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 25bp เป็น 2.25% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 10 เม.ย. 67 แต่กังวลเช่นกันว่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง ซึ่งจะลบล้างผลกำไรที่ได้จากการซื้อขายหุ้นจากการลงทุนในไทย
นักลงทุนหลายรายกล่าวว่า การจะเปลี่ยนมุมมองตลาดหุ้นไทยเป็นบวกนั้น พวกเขาต้องการเห็นสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยเพิ่มขึ้น, อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเป็นบวกและอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงขึ้น ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯเชื่อว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นในปี 67-68 ขณะที่คาดเงินเฟ้อรายเดือนอาจกลับมาเป็นบวกในเดือนมี.ค.หรือเม.ย. นี้ เนื่องจากราคาน้ำมันในประเทศน่าจะปรับขึ้น (ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวขึ้นและหน่วยงานรัฐของไทยอาจปรับเพิ่มเพดานราคา) รวมถึงฐานที่ต่ำ ส่วนเงินปันผลนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท
ฝ่ายวิจัยฯมองว่า หากธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยวันที่ 10 เม.ย.นี้ และเงินบาทไม่ได้อ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญ ตลาดหุ้นน่าจะปรับตัวขึ้น ซึ่งอาจดึงดูดเม็ดเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามามากขึ้น จึงยังคงเป้าดัชนี SET สิ้นปี 67 ที่ 1,650 จุด แม้ว่านักลงทุนคาดว่าธปท.จะปรับลดดอกเบี้ย แต่เชื่อว่านักลงทุนยังกังวลกับผลกระทบที่ตามมา เช่น เงินทุนไหลออกและเงินบาทอ่อนค่ามากเกินไป ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย underperform ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค
ฝ่ายวิจัยฯมองว่า ขณะนี้เป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อหุ้น เพราะเชื่อว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นการซื้อขายในตลาด สำหรับดัชนี SET สิ้นปีที่ 1,650 จุดนั้น เท่ากับ P/E 16.3 เท่าในปี 68 หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี เรามองว่า sentiment ตลาดดีขึ้นน่าจะดึงดูดให้มีเม็ดเงินจากต่างประเทศเช่นกัน
ส่วนหุ้น Top pick ของฝ่ายวิจัยประกอบด้วย AMATA, BBL, BCH, CPALL, ERW, PTTEP, TU และ SCB อย่างไรก็ตาม มุมมองของฝ่ายวิจัยฯอาจมี downside risk หากธปท.ยังตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมกนง. สองสามครั้งหลังจากนี้ และการที่รัฐบาลและธปท. ยังมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับกรอบเวลาและอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับลดลง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
