BAFS ซีเกมส์ยอดพุ่ง ดีลรถเติมน้ำมันทหาร

#BAFS #ทันหุ้น – BAFS รับยอดเติมน้ำมันพุ่ง ไตรมาส 4 เข้าพีคของปี รับซีเกมส์สนับสนุนนักท่องเที่ยวนักกีฬาดันยอดเติมน้ำมันเพิ่ม ส่วนปีหน้าคาดเติบโตต่อ แม้เผชิญความท้าทายสนามบินขึ้นค่า PSC เตรียมรับจุดเปลี่ยนสำคัญธุรกิจขนส่งน้ำมันผ่านท่อ หลังโครงการสร้างท่อเชื่อมเสร็จ ดันยอดพุ่ง 2,400 ล้านลิตร
นายจักรสนิท กฤษสอาดใจ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS เปิดเผยว่า สถานการณ์การเติมน้ำมันอากาศยานในไตรมาส 4 ฟื้นตัวที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และไตรมาส 3 (QoQ) โดยไตรมาส 4 จะเติบโตประมาณ 7% (YoY) หรือประมาณ 16 ล้านลิตรต่อวัน เป็นไตรมาสที่สูงสุดของปี โดยได้รับปัจจัยบวกจากเที่ยวบินที่เข้ามากขึ้น ทั้งเที่ยวบินในภูมิภาคและเที่ยวบินระยะไกลไปยังยุโรปและญี่ปุ่น รวมถึงเที่ยวบินภายในประเทศที่ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ยังได้รับแรงสนับสนุนจากกิจกรรมสำคัญ เช่น ซีเกมส์ (SEA Games) ซึ่งช่วยกระตุ้นให้นักกีฬาและท่องเที่ยวเข้ามาช่วงปลายปี คาดว่าปริมาณการเติมน้ำมันในเดือนธันวาคมจะสูงกว่าปีที่แล้วพอสมควรจากกรณีของซีเกมส์ สำหรับภาพรวมทั้งปี บริษัทคาดว่าจะมีกำไรเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
@ จุดเปลี่ยนสำคัญ
สถานการณ์ปี 2569 อุตสาหกรรมการบินก็ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ประเมินการเติบโตอย่างระมัดระวังไว้ที่ประมาณ 4% เมื่อเทียบกับปีปัจจุบัน จากจำนวนเครื่องบินที่เพิ่มขึ้น แต่ยอมรับว่ามีความท้าทาย ทั้งในส่วนของภาวะเศรษฐกิจโลก การส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในของจีน การขึ้นค่าธรรมเนียมสนามบินผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ (PSC) และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่บริษัทคาดหวังว่าในปีหน้าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นกลยุทธ์ด้านการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และการเพิ่ม Synergy ภายในกลุ่ม
นอกจากนี้ในปี 2569 ธุรกิจการขนส่งน้ำมันทางท่อผ่าน บริษัท บาฟส์ขนส่งทางท่อ จำกัด หรือ BPT จะโดดเด่นขึ้น หลังจากโครงการก่อสร้างท่อเชื่อม (Link Line) ที่จะไปเชื่อมต่อกับโครงข่ายของ กลุ่ม ปตท. เสร็จสิ้น โดยการก่อสร้างจะคืบหน้า 70% ภายในสิ้น และจะแล้วเสร็จประมาณช่วงกลางปีหน้า หลังจากนั้นจะมีการทดสอบระบบ และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ภายในปลายปีหน้า
ซึ่งโครงการนี้ถือเป็น "Game Changer" ของบริษัท เพราะหากเชื่อมต่อได้สำเร็จ จะทำให้สามารถรับน้ำมันจากภาคตะวันออกมาได้ ปริมาณการขนส่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 80% หรือประมาณ 700-800 ล้านลิตร ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งรวมต่อปีเพิ่มเป็น 2,400 ล้านลิตร จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 1,300 ล้านสิ้น ซึ่งจะทำให้ส่วนแบ่งการตลาดในภาคเหนือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 38% ไปอยู่ที่ 60-70% ปัจจุบันกำลังเจรจาลูกค้าผู้ให้บริการน้ำมัน คาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจท่อจะเพิ่มขึ้นจาก 12% เป็นประมาณ 20%
แม้ว่าปัจจุบันอัตรากำไร (Margin) ของธุรกิจท่อจะต่ำกว่าธุรกิจการบิน แต่เมื่อปริมาณเพิ่มขึ้นจนเกิดการประหยัดจากขนาดอัตรากำไรของธุรกิจท่อจะดีกว่าธุรกิจการบิน โดยบริษัทมีกำลังที่จะรับน้ำมันผ่านท่อถึง 3,000 ลิตรต่อวัน
"โครงการนี้จะช่วยให้ BPT สามารถพึ่งพาตนเองและมีอิสรภาพทางการเงิน มี Operating Cash Flow เป็นบวก ไม่เป็นภาระของ BAF ที่มีการช่วยเหลือปีละ 350 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ตั้งแต่ปีแรก เพราะท่อที่สร้างตัดค่าเสื่อม 80 ปี"
ขณะเดียวกันการขนส่งผ่านท่อแทนการใช้รถบรรทุกดีเซล ยังช่วยลดการปล่อยคาร์บอน บริษัทได้เตรียมขอรับรองคาร์บอนเครดิตในระดับสากลแล้ว
@ เสนอรถเติมน้ำมันกองทัพ
สำหรับธุรกิจรถเติมน้ำมันมีการส่งมอบรถเติมน้ำมันแล้ว 7 คันให้กับสนามบินเตโช ประเทศกัมพูชา, ส่งมอบให้ OR 3 คัน, และกำลังจะส่งมอบให้ BAFS เองอีก 5 คัน นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งซื้อค้างส่ง (Backlog) สำหรับปีหน้าอีกประมาณ 10 คัน โดยบริษัทเตรียมขยายตลาดไปยังภูมิภาคใหม่ๆ เช่น เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
รวมถึงการหาลูกค้ารายใหม่ อย่างเช่น กองทัพบก โดยมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่คือ รถ Mobile Diesel Cart หรือ รถเติมน้ำมันดีเซล เพื่อใช้ในภารกิจของทหาร รถเติมน้ำมันดีเซลนี้ช่วยยกระดับมาตรฐานและคุณภาพในการเติมน้ำมันในพื้นที่ทุรกันดาร บริษัทกำลังดำเนินการจัดทำรถสาธิต (Demo) เพื่อนำเสนอต่อกองทัพ ซึ่งหากมีการสั่งผลิตจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน
นายจักรสนิท ยอมรับด้วยว่า จากสถานการณ์ที่ดอกเบี้ยกำลังอยู่ในช่วงขาลง บริษัทจะได้รับประโยชน์ เนื่องจากหนี้ของบริษัทมีมูลค่ารวมประมาณ 11,000 ถึง 12,000 ล้านบาท ประมาณ 60% เป็นอัตราลอยด้วย และส่วนใหญ่เป็นหนี้ในประเทศ ดังนั้นการที่ดอกเบี้ยยังคงอยู่ในช่วงขาลงนั้นถือเป็นผลดีต่อบริษัท และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ผลกำไรสุทธิดีขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
