ยุบสภาหนุนหุ้นไทย นักวิเคราะห์ต่างชาติมองบวก ค่าเงินบาทยังผันผวนปัจจัยโลก

ยุบสภากับมุมมองนักลงทุนโลก หุ้นไทยได้แรงหนุน การเมืองกระทบบาทจำกัด

การประกาศยุบสภาเพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งก่อนกำหนด กลายเป็นปัจจัยใหม่ที่นักวิเคราะห์ต่างชาติหยิบขึ้นมาประเมินทิศทางสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะตลาดหุ้นและค่าเงินบาท ท่ามกลางบริบทที่เศรษฐกิจโลกผันผวนและเงินทุนเคลื่อนย้ายยังอ่อนไหวต่อสัญญาณจากธนาคารกลางหลัก

ในมุมของตลาดหุ้น นักวิเคราะห์มองว่าการเลือกตั้งอาจช่วยปลดล็อกความไม่แน่นอนทางการเมืองที่กดดันตลาดมานาน แม้ดัชนี SET จะปรับลดลงราว 10% ตั้งแต่ต้นปี และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิไปแล้วเกือบ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การมีกรอบเวลาการเมืองที่ชัดเจนขึ้นถูกประเมินว่าเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการฟื้นความเชื่อมั่น โดยเฉพาะในสายตานักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับเสถียรภาพเชิงนโยบาย

ฝ่ายนักกลยุทธ์หลายสำนักมองตรงกันว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับมูลค่าที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับภูมิภาค การเข้าสู่โหมดเลือกตั้งอาจเปิดทางให้เงินทุนบางส่วนเริ่มกลับเข้ามาเก็งทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลและนโยบายเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้ง แม้ยังต้องใช้เวลาในการเห็นภาพที่ชัดเจนก็ตาม

ขณะที่ค่าเงินบาทได้รับการประเมินว่ามีความเชื่อมโยงกับการเมืองในประเทศค่อนข้างจำกัด เมื่อเทียบกับแรงขับเคลื่อนจากภายนอก ปีนี้เงินบาทแข็งค่ากว่า 8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และติดกลุ่มสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย ปัจจัยหลักยังคงมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ ภาวะดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล และราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นแรง

อลัน เลา นักวิเคราะห์จากมาลายัน แบงกิ้ง ให้ความเห็นว่า ค่าเงินบาทในช่วงการเลือกตั้งครั้งก่อน ๆ ไม่มีรูปแบบตายตัว เนื่องจากถูกกำหนดโดยปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคและกระแสเงินทุนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งรอบนี้ควรถูกจับตาใกล้ชิดมากขึ้น เพราะประเทศไทยกำลังเผชิญโจทย์สำคัญด้านวินัยการคลัง ปัญหาทุนสีเทา และทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งอาจมีผลต่อความเชื่อมั่นในระยะถัดไป

ด้านมอห์ เซียง ลิม จากแบงก์ ออฟ สิงคโปร์ มองว่าการเลือกตั้งก่อนกำหนดอาจช่วยลดแรงกดดันทางการเมือง แต่ยังยากจะประเมินว่าจะนำไปสู่ความชัดเจนเชิงนโยบายมากน้อยเพียงใด เขาประเมินค่าเงินบาทในเชิงเป็นกลาง และตั้งข้อสังเกตว่าการแข็งค่าของเงินบาทในปีนี้ถือว่าค่อนข้างสวนทางกับปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทย

ขณะที่ คริสโตเฟอร์ หว่อง จาก OCBC ระบุว่า ทิศทางเงินบาทยังคงผูกอยู่กับปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะท่าทีผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และแรงหนุนจากราคาทองคำ แต่เมื่อประเทศเข้าสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ปัจจัยภายในอาจเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นในระยะสั้น โดยประเมินแนวรับสำคัญไว้ที่ระดับ 31.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

โดยภาพรวม นักวิเคราะห์ต่างชาติมองการยุบสภาเป็นจุดเริ่มต้นของการลดความเสี่ยงทางการเมือง ซึ่งเอื้อต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย ขณะที่ค่าเงินบาทยังคงถูกขับเคลื่อนด้วยกระแสโลกเป็นหลัก มากกว่าความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศในระยะใกล้