รีเซต

อนุทินชี้ไม่ต้องรอประกาศโรคประจำถิ่น ขอไทยร่วมมือสกัดโควิด เร่งหามาตรการก่อนเปิดผับบาร์

อนุทินชี้ไม่ต้องรอประกาศโรคประจำถิ่น ขอไทยร่วมมือสกัดโควิด เร่งหามาตรการก่อนเปิดผับบาร์
มติชน
11 พฤษภาคม 2565 ( 13:22 )
50
อนุทินชี้ไม่ต้องรอประกาศโรคประจำถิ่น ขอไทยร่วมมือสกัดโควิด เร่งหามาตรการก่อนเปิดผับบาร์

วันนี้ (11 พฤษภาคม 2565) ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2565 ถึงประเด็นโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า สำหรับการทำให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) การระบุว่าจะประกาศวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ หรือไม่ ก็ไม่สำคัญเท่าการได้รับความร่วมมือจากประชาชนทำให้ทุกวันเหมือนเป็นโรคประจำถิ่น หรือเป็นโรคชนิดหนึ่งอยู่แล้วในทุกวันโดยไม่ต้องประกาศอะไรเลยก็ได้ ตนสั่งการนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค หามาตรการเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ เพื่อให้เกิดความเป็นปกติมากที่สุด แต่ต้องให้ประชาชนตระหนักรู้การใช้ชีวิตในช่วงที่โควิดไม่ได้หายไป ขณะที่มีสายพันธุ์ใหม่เป็นเชื้อโอมิครอน BA.2 3 4 หรือ 5

“แต่หากข้อมูลยืนยันว่า ไม่มีความรุนแรงมากขึ้น รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยังลดความรุนแรงหลังติดเชื้อได้ เราก็ต้องมูฟออน ส่วนหน้ากากอนามัยสวมไว้ก็ป้องกันโรคอื่นๆ ได้” นายอนุทิน กล่าวและว่า เรื่องของมาตรการผ่อนคลายเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ทางกรมควบคุมโรคกำลังหาวิธีการที่จะเดินคู่กันไป ในวันนี้เราฉีดวัคซีนโควิด-19 กันมากกว่า 135 ล้านโดส ครอบคลุมทุกกลุ่มประชากรแล้ว ก็น่าจะมีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง

นายอนุทิน กล่าวว่า ฉะนั้น เราต้องวางแผนและแก้ไขสถานการณ์หน้างานด้วย เพื่อให้ทุกภาคส่วนไปได้ อย่างที่ตนไปพบผู้ประกอบการ ก็ยังไม่มีใครคัดค้านในการเปิด ทุกคนต่างสนับสนุน แต่ขอให้ทำความเข้าใจให้ประชาชนใช้ชีวิตให้ปลอดภัย

“ตอนนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ที่ความเห็นต่างกัง บางคนไม่ยอม บางคนยอม แต่ตอนนี้ทุกคนพร้อมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวโน้มการเป็นโรคประจำถิ่นจะขยับขึ้นมาได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างเพิ่งไปเน้น เพราะหากเทียบเทศกาลสงกรานต์ปีนี้กับปีที่แล้ว พบว่า ปีนี้ทุกคนเดินทางได้ มีความสุขมากขึ้น ร้านค้าได้ขายของ แต่ที่สำคัญคือ คนไทยยังสวมหน้ากากอนามัยอยู่เป็นเรื่องที่ต้องปลื้มใจ อย่างไรก็ตาม หากเราพบเห็นชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยมากขึ้น แต่หย่อนมาตรการหน้ากากอนามัย เราก็ต้องเตือน หรือประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแล ซึ่งตรงนี้อาจต้องมีมาตรการดูแล แต่หากเรามองในแง่ของเรื่องเศรษฐกิจก็เป็นการกลับมาของนักท่องเที่ยวที่ทำให้ประเทศไทยมีชีวิตชีวามากขึ้น

“ตอนนี้ไม่ใช่การควบคุมโรค เป็นการควบคุมพฤติกรรม สังเกตคนรอบข้างให้สวมหน้ากากอนามัย” นายอนุทินกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง