รีเซต

HANA โบรกฯ ชี้เผชิญปัจจัยลบ ช่วง 3-6 เดือน แต่กำไรปี 67-68 โตดี

HANA โบรกฯ ชี้เผชิญปัจจัยลบ ช่วง 3-6 เดือน แต่กำไรปี 67-68 โตดี
ทันหุ้น
20 พฤศจิกายน 2566 ( 14:22 )
66

#ทันหุ้น - ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา HANA คาดว่า อุปสงค์ของ IC จะยังอ่อนตัวช่วง 2-3 ไตรมาสหน้า เนื่องจากอุปสงค์การเติมสต็อกสะดุดลง เพราะยอดขายตลาดปลายทางตกต่ำ ขณะที่ลูกค้าเพิ่มความระวังเรื่องบริหารสต็อกสินค้ามากขึ้น เพราะอุปสงค์ในจีนไม่ฟื้นตัวตามคาด ดังนั้นเพื่อลดผลกระทบจากการใช้กำลังการผลิตที่อยู่ระดับต่ำ HANA จึงมีแผนคุมค่าใช้จ่าย เช่น ลดจำนวนพนักงาน และปรับปรุงกระบวนการผลิต

 

ธุรกิจ Packaging สำหรับโมดูล EV ไฮ-เอนด์เริ่มมีปัจจัยลบเข้ามา เนื่องจากลูกค้ายังพยายามเคลียร์สต็อก ท่ามกลางการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในตลาด EV ส่วนธุรกิจ PCBA ยังคงแข็งแกร่ง เพราะมีอุปสงค์เพิ่มขึ้นจากกลุ่มยานยนต์, อุตสาหกรรมและการแพทย์

 

ฝ่ายวิจัย บล.ซีจีเอสฯ จึงคาดว่า ในไตรมาส 4/66 นี้ HANA จะมียอดขายลดลง 13% yoy และ 6% qoq เป็น 6.19 พันล้านบาทและมีกำไรจากการดำเนินงานลดลง 8% yoy และ 24% qoq เป็น 551 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ในไตรมาส 3/66 PMS มียอดขายลดลง 29% qoq มาอยู่ที่ 92 ล้านบาท เพราะอุปสงค์ของอุปกรณ์การจัดการพลังงานซิลิคอน (silicon power management device) ในจีนอ่อนตัว โดยยอดขาย Si  มีสัดส่วนราว 80% ของยอดขายของ PMS ในไตรมาส 3 อย่างไรก็ตาม แม้อุปสงค์ของ Si ในจีนจะมีแรงกดดัน แต่ผู้บริหาร HANA เผยว่า เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว qoq ในไตรมาส 4 นี้แล้ว

 

ฝ่ายวิจัยฯ จึงคาดว่า PMS จะมียอดขายเติบโต qoq ในไตรมาส 4 เช่นกัน จากการเพิ่มการผลิตอุปกรณ์อุปกรณ์ซิลิคอน คาร์ไบด์ (SiC) หลังมีการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในสายการผลิตช่วงกลางไตรมาส 4 และมองว่าผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง MV MOSFET น่าจะช่วยลดผลกระทบจากยอดขาย Si ที่อ่อนตัวลง

 

ทั้งนี้ HANA เผยว่า PMS อาจถึงจุดคุ้มทุนช้ากว่าที่คาดไว้ราว 6 เดือนหรือในครึ่งหลังปี 67/ปลายปี 68 เนื่องจากอุปสงค์ของอุปกรณ์ Si ลดลง โดย HANA ยังไม่ได้ให้แนวทางใหม่สำหรับยอดขายของ PMS เพราะอยู่ระหว่างปรับประมาณการ แต่ฝ่ายวิจัยฯเชื่อว่า อาจปรับเป้ายอดขายในปี 67 ลง จาก 45 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับประมาณการของเราที่ 40.5 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

แม้ HANA จะเผชิญกับปัจจัยลบช่วง 3-6 เดือนนี้ แต่ฝ่ายวิจัยฯ ยังแนะนำ “ซื้อ” เพราะเชื่อว่ากำไรสุทธิในปี 67-68 จะยังเติบโตดี ส่วนราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 อยู่ที่ 68 บาท มี P/E ที่ 17.5 เท่าในปี 68 โดยปัจจัยบวกช่วยหนุนราคาหุ้น คือ การที่อุปสงค์ของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ส่วน downside risk จะมาจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ต่ำกว่าคดาและ PMS เพิ่มการผลิต SiC ช้ากว่าคาด

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง