นักไวรัสวิทยา วิเคราะห์ 5 ประเด็น หลัง ศบค.เผยกรณี ATK ให้ผลไม่ถูกต้อง
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก วิเคราะห์ “ประเด็น ATK ให้ผลบวกลวง คือ ขึ้น 2 ขีดแบบไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 มา” โดยระบุว่า
1. ชุดตรวจไม่ได้มาตรฐาน : เป็นไปได้สูง เพราะชุดตรวจต้องใช้แอนติบอดีที่จำเพาะต่อโปรตีนของไวรัสจริงๆ ถ้าคุณภาพของแอนติบอดีที่นำมาเคลือบในชุดตรวจไม่ดี แอนติบอดีก็จะไปจับอะไรสะเปะสะปะไปหมด การตรวจเจอ 2 ขีดจึงเป็นไปได้
2. การปนเปื้อนของอุปกรณ์ : ถ้าแกะออกมาจากถุงโดยตรง ใช้ swab ครั้งเดียวทิ้ง โอกาสเกิดยากมากครับ เพราะปกติ เก็บตัวอย่างแล้วจะผสมน้ำยา และ หยดลง ATK ทันที การไปสัมผัสกับเชื้อในปริมาณสูงพอที่จะให้ผล ATK เป็นบวกได้ เกิดขึ้นไม่ง่ายครับ ยกเว้นเอา swab มาใช้ซ้ำซึ่งไม่ทำกัน
3. ติดเชื้อไวรัสชนิดอื่นมา : เป็นไปได้ครับ โดยเฉพาะชุดตรวจที่ใช้แอนติบอดีคุณภาพไม่ดีมาเคลือบ ไม่ได้มีการตรวจสอบว่า แอนติบอดีชนิดนี้ไปจับกับโปรตีนของไวรัสโคโรน่าตัวอื่นได้หรือไม่ ถ้าจับได้ด้วย คนที่เป็นหวัดจากโคโรน่าปกติ ก็จะตรวจพบเป็นบวกได้ แต่ ATK มาตรฐานทั่วไปเค้าจะเคร่งครัดเรื่องนี้มาก ไม่มีทางปล่อยออกมาให้ใช้ได้ถ้าไม่มีความจำเพาะสูงมากๆ
4. อ่านผลทดสอบเกินเวลา : เกิดขึ้นได้ครับ แต่ผลบวกที่ได้จากการทิ้งไว้เกินเวลามักเป็นผลบวกจางๆ จะไม่กลับขึ้นมาเข้มๆได้
5. สภาพสิ่งส่งตรวจไม่เหมาะสม : อันนี้ไม่เข้าใจครับ เพราะปกติของที่ไม่เหมาะสมมักให้ผลเป็นลบ เพราะตัวอย่างเสียสภาพตรวจไม่เจอ แต่ ได้ผลบวกขึ้นมา เลยงงๆว่าไม่เหมาะสมนี้หมายถึงอะไรครับ