เปิดสาเหตุและแนวทางป้องกัน เด็กติดเกมและมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงสูงขึ้นในช่วงโควิด
NewsReporter
3 สิงหาคม 2565 ( 10:11 )
181
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เผยผลวิจัยจากกรมสุขภาพจิต ชี้ตัวเลขเด็กติดเกมและมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงสูงขึ้นในช่วงโควิด
น.ส.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า ภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2565 มีผลงานการวิจัยมากมายที่สามารถนำไปต่อยอดในเชิงสังคมและคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นผลพวงจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา เด็กและเยาวชนที่ใช้ชีวิตกับสื่อออนไลน์ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป โดยทีมวิจัยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้ประเมินวิเคราะห์ พบว่า เด็กมีพฤติกรรมก้าวแรงรุนแรงสูงขึ้น
แพทย์หญิงโชษิตา ภาวสุทธิไพศิฐ จิตแพทย์เชี่ยวชาญด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่น กรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า ทีมงานวิจัย ได้ให้ผู้ปกครองจากทั้ง 4 ภาค ประเมินพฤติกรรมของเด็กเข้าข่ายเป็นเด็กที่ก้าวร้าว มีพฤติกรรมติดเกมหรือไม่ พบปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมรุนแรงของเด็กและเยาวชนอย่างมีนัยสำคัญ คือ การเลี้ยงดูโดยผู้ปกครองที่ไม่ใช่พ่อแม่ เด็กมีประวัติพฤติกรรมรุนแรงมาก่อน เด็กมีโรคทางจิตเวช เด็กมีประวัติใช้สารเสพติด มีการทำหน้าที่ครอบครัวไม่ดี โดยภาวะติดเกม เด็กจะมีความบกพร่องในการควบคุมการเล่น ความถี่ ระยะเวลาในการเล่นให้ความสำคัญกับเกมมากกว่าสิ่งที่ต้องทำในกิจกรรมชีวิตประจำวัน จนส่งผลกระทบทั้งทางร่างกาย การเรียนรู้ ด้านอารมณ์ และด้านความสัมพันธ์ในครอบครัวและกับเพื่อน
ส่วนแนวทางการป้องกันนั้น ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญในการดูและเฝ้าดูสังเกตพฤติกรรม ผู้ปกครองควรกำหนดเวลาเล่นเกมให้ชัดเจน พยายามหากิจกรรมอย่างอื่นที่สร้างสรรค์ให้ลูกทำยามว่าง และหากมีอาการติดเกมอย่างรุนแรง มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ควรได้รับการบำบัดโดยจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา โดยทีมวิจัย ได้จัดทำคู่มือเพื่อให้ความรู้เสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวในการดูแลเด็กและเยาวชนช่วงสถานการณ์โควิด-19