รีเซต

‘ททท.’ คาดหยุดยาว 19-22 พ.ย. นี้ ทำเงินสะพัดกว่า 12,600 ล้านบาท

‘ททท.’ คาดหยุดยาว 19-22 พ.ย. นี้ ทำเงินสะพัดกว่า 12,600 ล้านบาท
มติชน
17 พฤศจิกายน 2563 ( 09:20 )
118
‘ททท.’ คาดหยุดยาว 19-22 พ.ย. นี้ ทำเงินสะพัดกว่า 12,600 ล้านบาท

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดยาวเนื่องในวันหยุดพิเศษเดือนพฤศจิกายน ระหว่างวันที่ 19-22 พฤศจิกายน 2563 ททท.คาดว่าจะมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศประมาณ 3.02 ล้านคน-ครั้ง มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (โออาร์) 37% และมีการใช้จ่ายสร้างรายได้หมุนเวียนมากกว่า 12,600 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงวันหยุดชดเชยเนื่องในวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเดินทาง 3.10 ล้านคน-ครั้ง อัตราการเข้าพักเฉลี่ย 41% สร้างรายได้ประมาณ 12,421.03 ล้านบาท

 

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ภาคที่คาดว่าจะมีการเดินทางและสร้างรายได้มากที่สุด ได้แก่ ภาคกลาง 7.37 แสนคน-ครั้ง สร้างรายได้ 2,001.85 ล้านบาท ภาคตะวันออก 7.91 แสนคน-ครั้ง สร้างรายได้ 4,189.46 ล้านบาท และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6.03 แสนคน-ครั้ง สร้างรายได้ 1,347.23 ล้านบาท แต่ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางในช่วงวันหยุดดังกล่าวค่อนข้างมีน้อย เพราะเพิ่งผ่านวันหยุดยาวเนื่องในวันปิยมหาราชมาไม่นาน ขณะที่อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะมีวันหยุดยาว โดยคาดว่านักท่องเที่ยวบางกลุ่มอาจชะลอการเดินทางในช่วงวันหยุดนี้ไว้ก่อน ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ลดลงและหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวมีจำกัด ทำให้แนวโน้มการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดนี้ อาจจะต่ำกว่าประเมินไว้ได้

 

“สถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวนี้ คาดว่าบรรยากาศท่องเที่ยวในประเทศจะใกล้เคียงกับวันหยุดชดเชยวันสงกรานต์ที่ผ่านมา แม้วันหยุดในเดือนนี้จะเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ดึงดูดให้เดินทางท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี แต่ข่าวการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเริ่มมีมากขึ้น จึงเป็นปัจจัยลบที่ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความวิตกกังวล มีการยกเลิกห้องพักหรือเปลี่ยนแผน และชะลอการเดินทาง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พบการติดเชื้อ อาทิ กระบี่ บวกกับวันหยุดนี้ แม้จะประกาศเป็นวันหยุดราชการ แต่ภาคเอกชนในหลายองค์กรที่เป็นกลุ่มตลาดขนาดใหญ่ และมีกำลังซื้อสูงกว่า ยังคงทำงานตามปกติอยู่” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

 

นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยส่งเสริมที่มาช่วยพยุงให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดนี้คือ สภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็นเหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะภูมิภาคภาคเหนือ ภาคใต้ฝั่งอันดามัน และภาคอีสานตอนบน ประกอบกับเป็นช่วงปิดเทอมของนักเรียน เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว ถือโอกาสไปเที่ยวพร้อมครอบครัว ทั้งยังได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการกาลังใจ ซึ่งขยายเวลาการใช้สิทธิ์ไปจนถึง 31 มกราคม 2564 สำหรับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่เมืองหลัก ได้แก่ ชลบุรี กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี นครราชสีมา ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ ขอนแก่น เชียงใหม่ และพระนครศรีอยุธยาเหมือนเช่นเคย

 

“พื้นที่เมืองรองอย่างนครศรีธรรมราช ยังคงได้รับความนิยมจากกระแสศรัทธาไอ้ไข่วัดเจดีย์ ทำให้ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลเข้าพื้นที่อย่างท่วมท้น ล่าสุดสายการบินไทยสมายล์ ทำการเปิดเส้นทางบิน เชียงใหม่-นครศรีธรรมราช และเส้นทาง อุดรธานี–นครศรีธรรมราช ทำการบิน 1 เที่ยวต่อวัน สัปดาห์ละ 3 วัน โดยเริ่มทำการบินในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้ เพื่อรองรับการกระแสการเดินทางเข้าพื้นที่ที่มีอย่างต่อเนื่อง” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

 

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม

สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง