เกาะติด 'บิ๊กตู่‘ ถก เอกชน 28 เม.ย. จัดหาวัคซีน-แผนฟื้นศก.
เมื่อวันที่ 25 เมษายน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 28 เมษายนนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เชิญภาคเอกชน อาทิ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย รวมทั้งสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว และหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้อง หารือแนวทางจัดหาและกระจายวัคซีนของภาคเอกชน เพื่อกระจายสู่บุคลากรในภาคธุรกิจสำคัญเพื่อในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อนำไปกำหนดมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ต่อไป ซึ่งรัฐบาลเตรียมงบประมาณกว่า 3.8 แสนล้านบาท สำหรับการเยียวยาประชาชนและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการระบาดระลอกใหม่
ขณะที่นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนของการเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของภาคเอกชน ว่า จะแบ่งเป็นสองส่วน คือ 1.ส่วนของโรงพยาบาลเอกชนที่จะจัดซื้อวัคซีนต่อจากรัฐบาล เพื่อมาจัดจำหน่ายเป็นวัคซีนทางเลือกฉีดให้กับประชาชนทั่วไป ที่มีกำลังทรัพย์และไม่อยากจะรอรับการฉีดวัคซีนจากภาครัฐ ส่วนที่ 2 คือ การฉีดให้บุคลากรในภาคเอกชน โดยภาคเอกชนจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ขณะนี้มีความต้องการเบื้องต้นประมาณ 2 ล้านโดส ซึ่งในที่ประชุมนายกฯพบปะเจรจากับภาคเอกชนวันที่ 28 เมาายนนี้ จะนำเสนอหลักการของแผนการจัดซื้อและเร่งการฉีดวัคซีน ซึ่งจำนวนวัคซีน 50-60 ล้านโดสรวมกับของเอกชน ถือว่ายังไม่เพียงพอ อยากให้รัฐบาลเร่งผลักดันการเพิ่มจำนวนการจัดหาวัคซีนเพิ่มขึ้นอีก ภาคเอกชนพยายามติดตามอยู่ตลอดว่ามีวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ มาเพิ่มเติมมากกว่าที่รับทราบอยู่ในปัจจุบันนี้
นางกอบกาญจน์กล่าวว่า อีกส่วนหนึ่งคือ การร่วมมือระหว่างหอการค้ากับกทม. เพื่อหาสถานที่รองรับการฉีดวัคซีนของสำหรับประชาชนทั่วไป ในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้ได้ส่งสรุปไปให้ทาง กทม.แล้ว ซึ่งตามแผนที่ร่วมมือกับกทม.ตั้งเป้าเดือนมิถุนายนนี้จะฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 5 หมื่นโดส หลังจากที่มีการนำข้าวัคซีนล็อตใหญ่เข้ามาในไทย