รีเซต

ปืนหาง่าย? ต้นตอก่ออาชญากรรม พบไทยติดอันดับ 15 ประเทศที่มี "คดีอาวุธปืน" มากสุดในโลก

ปืนหาง่าย? ต้นตอก่ออาชญากรรม พบไทยติดอันดับ 15 ประเทศที่มี "คดีอาวุธปืน" มากสุดในโลก
TNN ช่อง16
3 ตุลาคม 2566 ( 23:55 )
121

จากกรณีเหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้า ใจกลางกรุงเทพ เมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา สร้างความสะเทือนใจ หวาดวิตกกับสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจาก ผู้ก่อเหตุเป็นเพียงเยาวชนอายุ 14 ปีเท่านั้น 

หลายฝ่ายเกิดการตั้งคำถามว่า เหตุใด? จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แล้วอะไรคือ สาเหตุที่ทำให้ ด.ช. ที่ดูเหมือนจะเพรียบพร้อมไปทุกอย่าง ตัดสินใจก่อเหตุอุกอาจนี้?  

TNNONline ขอรวบรวมไทม์ไลน์ เชื่อมโยงเหตุการณ์ และเปิดข้อมูลทางสถิติ เกี่ยวกับการก่อคดีอาวุธปืน พร้อมทั้งไล่เรียงข้อกฎหมายที่สำคัญ ดังนี้ 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ก่อเหตุยังไม่สามารถให้การได้ มีประวัติการรักษาทางจิตเวชที่โรงพยาบาลราชวิถี และพบว่ามีการขาดการรักษา ไม่ได้รับประทานยารักษาโรคตามที่แพทย์กำหนด ขณะนี้ไม่สามารถให้รายละเอียดในเรื่องของประวัติครอบครัวได้ รวมถึงแรงจูงใจที่ใช้ในการก่อเหตุ เพื่อไม่อยากให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในสังคม 

ส่วนสถานที่เกิดเหตุจากการตรวจสอบในเบื้องต้นเป็นการไล่ก่อเหตุ ตั้งแต่บริเวณชั้น M ไล่ไปจนถึงชั้น 3 ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้ และเข้าพื้นที่ได้ภายใน 5 นาที สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเวลาต่อมา  

 

"ดิเอสเซนส์" รับผู้ก่อเหตุเป็นนักเรียนของโรงเรียนจริง

 

นายวิวัฒน์ คติธรรมนิตย์ ผู้อำนวยการดิเอสเซนส์ ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้ส่งจดหมายถึงผู้ปกครอง พร้อมระบุข้อความว่า "The Essence ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์บุกยิงในห้างสรรพสินค้าพารากอน เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 เวลา 17.00 น. The Essence ได้รับทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็น นักเรียน The Essence ตามที่มีการรายงานข่าวจริง

 

The Essence ตระหนักดีว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เราจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนอย่างเต็มที่ หากมีประเด็นที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ และใคร่ขอความเห็นอกเห็นใจทุกท่าน โปรดเคารพความเป็นส่วนตัวของครอบครัวน้องที่เป็นผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนด้วย และหากผู้ปกครองและนักเรียนไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องการพบผมเพื่อพูดคุยผมพร้อมที่จะพบทุกท่าน โปรดนัดหมายกับทีมแคร์ของโรงเรียนได้ครับ"

 

ศธ.แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์นักเรียน ม. 2 กราดยิง

 

พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ได้รับทราบสถานการณ์ทั้งหมดแล้ว และจากข้อมูลพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนอายุ 14 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้น ม.2 โรงเรียนอินเตอร์แห่งหนึ่ง ตนในฐานะ รมว.ศธ.จึงขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์ที่น่าเศร้าสลดเป็นอย่างยิ่งในครั้งนี้ 

“กรณีเยาวชนก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงในวันนี้ เรื่องของแรงจูงใจในการก่อเหตุต้องรอผลการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในส่วนของ ศธ. นอกจากแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังขอส่งความห่วงใยให้ครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้ได้รับผลกระทบด้านต่าง ๆ ตลอดจนครอบครัวผู้ก่อเหตุเองซึ่งเชื่อมั่นว่าไม่ต้องการให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นและคงเจ็บปวดไม่ต่างกัน ให้สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาอันโศกเศร้านี้ไปได้อย่างดีที่สุด" รมว.ศธ.กล่าว

 

ปืนหาง่าย?  ต้นตอก่ออาชญากรรม 

 

จากการตรวจสอบบนโลกออนไลน์ พบการซื้อ-ขาย อาวุธปืน ค่อนข้างง่าย สามารถสั่งซื้อผ่านอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่ราคาอยู่ที่กระบอกละ 8,000–9,000 บาท 

 

6 ต.ค.66 ครบรอบ 1 ปี กราดยิงหนองบัวลำภู

 

6 ต.ค. นี้ ถือเป็นวันครบรอบ 1 ปี ที่อดีตตำรวจก่อเหตุกราดยิงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใน จ.หนองบัวลำภู และบริเวณใกล้เคียง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 36 คน สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วโลก  

 

ครั้งนั้น หลายฝ่ายต่างออกมาเคลื่อนไหว สร้างมาตรฐานความปลอดภัย ป้องกันอาชญากรรมกราดยิง ไม่ให้เกิดซ้ำอีก  เพียงแค่ 3 วัน ก็จะครบ 1 ปี  กลับเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันขึ้น

 

"การเข้าถึงปืนโดยง่าย" ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คนก่อเหตุรุนแรงขึ้นได้ง่าย  

 

ไทยครอบครองปืนสูงที่สุดในอาเซียน

ข้อมูลที่น่าตกใจ คือ องค์กร Small Arms Survey ได้จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายและความโปร่งใสในการครอบครองอาวุธปืนที่พลเรือนครอบครองได้ พบว่าปี 2017 ทั่วโลกมีอาวุธปืนกว่าพันล้านกระบอก โดยสหรัฐอเมริกา ครอบครองอาวุธปืนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ขณะที่ไทยอยู่ในอันดับ 13 ของโลก มีราว 10.3 ล้านกระบอก และยังพบว่าไทยครอบครองปืนสูงที่สุดในอาเซียน

 

ไทยติดอันดับ 15 ประเทศที่มี "คดีอาวุธปืน" มากสุดในโลก 

 

ข้อมูลจากเว็บไซต์  World Population Review เผยแพร่ผลสำรวจประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนมากที่สุดในโลก ประจำปี 2022 พบว่า 

 

ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 15 มีผู้เสียชีวิต 2,804 คน  โดยคิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 3.91 คน ต่อประชากร 100,000 คน 

 

5 อันดับแรก ของประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนมากที่สุดในโลก 

 

1. บราซิล (มากกว่า 49,000 คน) 

2. สหรัฐฯ (37,000 คน)

3. เม็กซิโก 

4. อินเดีย 

5. โคลอมเบีย 

 

ส่วนระดับอาเซียน ฟิลิปปินส์ยังคงเป็นอันดับ 1 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนมากที่สุด (9,267 คน) 

ขณะที่ สถิติกองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ระหว่างปี 2559-2562 ที่พบว่าคดีอาญาที่รัฐเป็นผู้เสียหาย ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนเกิดจากอาวุธปืนมีทะเบียน 25,034 คดี และเกิดจากอาวุธปืนไม่มีทะเบียน หรือปืนเถื่อนมากถึง 91,376 คดี

 

อนุมัติ พ.ร.บ. อาวุธปืน ขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2566 ครม.มีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปีน พ.ศ. 2490 โดยกำหนดให้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่อยู่ภายในราชอาณาจักรมาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้นำเข้าอาวุธปืนจากประเทศเพื่อนบ้านมาขึ้นทะเบียน หรือให้มีการส่งมอบอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ คืนแก่นายทะเบียนภายในระยะเวลาที่กำหนด และกำหนดเพิ่มเติมให้นายทะเบียนท้องที่จัดทำรายละเอียดและจัดเก็บอัตลักษณ์เกี่ยวกับอาวุธปืนด้วย

สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ มีดังนี้

 

1.ให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวมาขอรับอนุญาตเให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในระยะเวลา 180 วัน โดยไม่ต้องรับโทษ

 

2.ให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ที่กฎหมายไม่อนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครองหรือจำหน่าย เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการทำลายสูงเป็นอันตรายต่อประชาชน ให้ผู้ที่มีอาวุธปืนดังกล่าวนำมามอบให้แก่หน่วยทหารที่ใกล้ที่สุดภายใน180 วัน โดยไม่ต้องรับโทษ ทั้งนี้ ทางราชการไม่จำเป็นต้องชดใช้ราคาและให้อาวุธปืนนั้นตกเป็นของแผ่นดิน

 

3.ให้นายทะเบียนท้องที่มีอำนาจในการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืนที่นำมาดำเนินการทางทะเบียน เช่น การทำเครื่องหมายทะเบียน การโอนการแจ้งย้ายไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งอาวุธปืนที่นำมาขึ้นทะเบียนขออนุญาต เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องทางทะเบียนอาวุธปืน การตรวจสอบหาอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุอาชญากรรม หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดในทางราชการ

 

ครอบครองปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต โทษหนักคุก 10 ปี 

 

การมีปืนไว้ในครอบครองได้  ผู้ครอบครองจะต้องได้รับอนุญาตจากทางราชการโดยการจดทะเบียนอาวุธปืนที่ว่าการอำเภอ  มิเช่นนั้นผู้ครอบครองจะครอบครองอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 72 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปีและปรับ 2,000 ถึง 20,000 บาท  หากเป็นการครอบครองปืนของผู้อื่นที่มีทะเบียน  มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปีและปรับ 1,000 ถึง 10,000 บาท

 

สำหรับการพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ  แม้จะเป็นปืนมีทะเบียนก็ตาม  ผู้พกพาปืนก็ต้องมีใบอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนด้วย  และแม้จะมีใบอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนแล้วก็ตาม  ก็ห้ามพกพาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย  หรือพกพาไปในที่ชุมนุมชน ที่จัดงานมหรสพ เทศกาลรื่นเริง หรือที่อื่นใดในทำนองเดียวกับที่กล่าวมา  เว้นแต่จะเป็นเจ้าพนักงาน ข้าราชการ หรือประชาชนที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานรักษาความสงบเรียบร้อย  หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

การขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน 

 

คุณสมบัติ 

1. บรรลุนิติภาวะ

2. สภาพร่างกายปกติไม่พิการหรือทุพพลภาพ

3. ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือวิกลจริต หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ

4. มีรายได้และอาชีพ

5. มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

6. มีชื่อในทะเบียนบ้านและมีถิ่นที่อยู่ประจำในท้องที่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน

7. ไม่เป็นบุคคลที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือไม่เป็นบุคคลที่มีความประพฤติชั่วอย่างรายแรงอาจกระทบกระเทือนถึงความสงบเรียบของประชาชน

8. ไม่เคยต้องโทษจำคุกคดีอาญา

 

เอกสารประกอบ 

ข้าราชการทหารหรือตำรวจ    

 

1. บัตรประจำตัวข้าราชการหรือพนักงาน (ฉบับจริงพร้อมสำเนา)

2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)

3. หนังสือรับรองจากผู้บังคับบัญชารับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน ความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาต ที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน

4. ผู้ที่ออกหนังสือต้องเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดที่มียศตั้งแต่พันเอกหรือพันตำรวจเอกขึ้นไป

5. ผู้มียศตั้งแต่พันเอกหรือพันตำรวจเอกขึ้นไปไม่ต้องมีหนังสือรับรอง

6. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน

 

เอกสารประกอบ

ประชาชนทั่วไป หรือผู้ประกอบอาชีพอื่น    

 

1. บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)

2. ทะเบียนบ้าน (ฉบับจริง พร้อมสำเนา)

3. หลักฐานการประกอบอาชีพ อาทิเช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือร้าน หากเป็นลูกจ้างหรือรับจ้างต้องมีหนังสือรับรองตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือน จากผู้ที่มีอำนาจจัดการของกิจการนั้น หรือเจ้าของแล้วแต่กรณี หากมิได้มีอาชีพ

4. รับจ้างต้องมีเอกสารประกอบตามที่อ้างอิง อาทิเช่น ทำสวน ทำไร่ ติดต่อค้าขายที่ หรือค้าขายย่อย หรือเร่ขาย โดยไม่ได้จดทะเบียน ต้องนำหลักทรัพย์ เช่น โฉนดที่ดิน เงินฝากธนาคาร (Statement) หรือหลักฐานอื่นเพื่อประกอบการพิจารณา

5. หนังสือรับรองความประพฤติและเหตุผลความจำเป็นที่ขออนุญาตจากข้าราชการระดับ 6 ขึ้นไป หรือตำแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป

6. พิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติ และสืบสวนความประพฤติ

7. หากขออนุญาตเพื่อการกีฬาจะต้องนำหลักฐานการเป็นสมาชิกสนามยิงปืนมาแล้วไม่น้อยกว่า 60 วัน มาประกอบการพิจารณา

8. หลักฐานแสดงว่าผ่านการฝึกอบรมการใช้อาวุธปืน

 

ภาพ TNNOnline  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง