ห่วงอุบัติเหตุปัจจัยเสี่ยงตัวนำบาดเจ็บช่วงลอยกระทงโควิด
TNN Health
18 พฤศจิกายน 2564 ( 14:48 )
44
สคอ.ห่วงอุบัติเหตุพุ่งวันลอยกระทง หลังรัฐบาลเปิดให้จัดงานได้ เตือนฉลองอย่างมีสติ ดื่มไม่ขับใส่หน้ากาก พกเจลล้างมือ เลี่ยงที่แออัด ป้องกันโควิด-19
นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) เปิดเผยว่าจากการที่มีนโยบายเปิดประเทศ เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และการขานรับของภาคธุรกิจที่ดีใจเนื่องจากต้องหยุดมานาน รัฐพยายามอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากลงสู่ประชาชนฐานรากให้เกิดการใช้จ่าย เกิดกระแสเงินหมุนเวียน และตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและอีกไม่กี่วันจะเข้าเทศกาลลอยกระทง คือวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564นี้ ซึ่งมีตัวแปรสำคัญที่อาจจะทำให้ต้องกลับมาใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบากอีก คือ สถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนที่จะเพิ่มสูงขึ้นที่มาจากการขับเร็วและดื่มแล้วขับ หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุเพลิงไหม้จากการจุดเทียน เล่นปะทัด โคมลอย เหตุทะเลาะวิวาท ความรุนแรงที่มาจากการดื่มสุรา
นายพรหมมินทร์ กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุ Thai RSC รายงาน ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 มีผู้เสียชีวิตสะสม ปี 2564 จำนวน 11,579 ราย บาดเจ็บ 750,063 ราย และในช่วงวันที่ 7-13 พฤศจิกายน 2564ที่ผ่านมา พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 268 ราย บาดเจ็บ 16,651 ราย
“หากเปรียบเทียบกับช่วงเวลาปกติ อัตราการเสียชีวิตบนถนน ข้อมูล ณ วันที่ 16 พ.ย.64 พบผู้เสียชีวิต 65 ราย ในขณะที่ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพียง 56 ราย จะเห็นได้ว่าตัวเลขของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าผู้เสียชีวิตจากโควิดอยู่มาก ดังนั้นประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังและให้ความสำคัญกับความเสี่ยงที่มาจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าโควิดให้มากขึ้นกว่าเดิม ”
ทั้งนี้ คาดว่าอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลลอยกระทง จะเป็นอีกช่วงหนึ่งที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูง ไม่ต่างจากเทศกาลอื่นๆ เนื่องจาก มีการเดินทางท่องเที่ยว การดื่มสังสรรค์ ซึ่งนับเป็นตัวแปรสำคัญและมีความสัมพันธ์กับปัญหาการระบาดของโรคโควิดด้วยเช่นกัน เพราะหากได้รับบาดเจ็บถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล เชื่อว่าอาจจะต้องใช้เวลากันมากขึ้น เนื่องภาระงานที่ล้นมือของแต่ละแห่งในการรับมือกับผู้ป่วยโควิดที่ยังมีอยู่จำนวนไม่น้อย เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างต่อเนื่องมายาวนานจนอ่อนล้าหมดแรง ขั้นตอนการให้บริการที่ต้องมีการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อ การช่วยเหลือจึงไม่อาจที่จะกระทำได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งยังมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเส้นทาง จึงอยากให้ประชาชนที่เดินทางปฏิบัติตามมาตรการของรัฐที่กำหนดอย่างเต็มที่ เว้นระยะห่างลดความแออัด ละเว้นการสัมผัสหรือจับต้องสิ่งของหรือผู้คนโดยไม่จำเป็น ตลอดจนขับรถด้วยความระมัดระวัง ไม่ขับเร็ว พร้อมทั้งดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด ตักเตือนไม่ให้ขับรถและดื่มสุรา สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งขณะขับขี่
"ขอความร่วมมือทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ดื่มหรือจำหน่ายสุราในพื้นที่สาธารณะ ไม่จำหน่ายให้กับเด็กและเยาวชนต่ำกว่า 20 ปี เพราะเป็นการทำผิดกฎหมายและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทางถนนหรือภัยต่างๆตามมาได้”
ทั้งนี้อัตราโทษเมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบขับขี่ กรณีเมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีโทษจำคุก 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนใบขับขี่
ที่มา : สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)
ติดตาม TNN Health ได้ที่นี่ FB https://www.facebook.com/TNNHealth
--------------------
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก
ทุกประเด็นร้อนข่าวสาร สาระ ทันเหตุการณ์ พูดคุยกันได้ 24 ชม.
คลิกเลย >>> TrueID Community <<<