โควิด-19 : พล.อ.ประยุทธ์เสนออาเซียนทำข้อตกลงเปิดช่องทางพิเศษในการเดินทาง


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถ้อยแถลงในเวทีสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 36 ย้ำความสำเร็จของไทยในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 พร้อมกับประกาศว่าไทยจะบริจาคเงิน 1 แสนดอลลาร์สหรัฐเข้ากองทุนอาเซียนเพื่อสู้โควิด-19 และพัฒนาวัคซีน
"ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยดีขึ้นเป็นลำดับ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี รัฐบาลจึงได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต แต่ยังคงบังคับใช้มาตรการด้านสุขอนามัย การรักษาระยะห่างทางสังคม และการใช้แอปพลิเคชัน "ไทยชนะ" ป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกสอง" นายกฯ กล่าวในตอนหนึ่งของถ้อยแถลงผ่านระบบประชุมทางไกล
- โควิด-19 : มติ สมช. ชงรัฐบาลต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รอบ 3 ยืนยัน “ไม่มีนัยทางการเมือง”
- โควิด-19 : ฝรั่งเศส กรีซ เนเธอร์แลนด์ และหลายชาติยุโรปที่เคยเกิดการระบาดหนักเริ่มเปิดประเทศแล้ว
- โควิด-19 : แผนที่ อินโฟกราฟิก ยอดติดเชื้อ-เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า นอกจากการระบาดของโควิด-19 แล้ว อาเซียนยังต้องรับมือกับ "สภาพภูมิรัฐศาสตร์ของโลกที่ผันผวนมากขึ้น การเผชิญหน้าระหว่างมหาอำนาจ การเพิ่มขึ้นของกระแสชาตินิยมและต่อต้านโลกาภิวัตน์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเสถียรภาพระหว่างประเทศ และท้าทายระบบพหุภาคีนิยม" ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกระแสที่อาเซียนจะต้องร่วมมือกันต้านและผนึกกำลังกันเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบังคับให้เลือกข้าง และเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในอาเซียน
ข้อเสนอ "อาเซียนยุคหลังโควิด-19"
พล.อ.ประยุทธ์เสนอ 3 แนวทางเพื่อขับเคลื่อนอาเซียนในยุคหลังโควิด-19 ได้แก่ การเชื่อมโยงกันอย่างแท้จริงของประเทศสมาชิกอาเซียน สนับสนุนให้อาเซียนสร้างความเข้มแข็งจากภายใน และส่งเสริมให้อาเซียนสร้างภูมิคุ้มกันในระยะยาว โดยมีข้อเสนอดังนี้
- ทำข้อตกลงเรื่องการเดินทางระหว่างประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์เสนอว่าอาเซียนควรเริ่มพิจารณาแนวทางร่วมกันในการผ่อนคลายมาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง เพื่อช่วยฟื้นฟูธุรกิจและการเดินทาง โดยอาจพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดทำข้อตกลงระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีความพร้อมก่อน สร้างช่องทางพิเศษสำหรับนักธุรกิจและประชาชน บนพื้นฐานของมาตรการด้านสาธารณสุขที่ยอมรับร่วมกัน
- เร่งลงนาม RCEP ภายในปีนี้
เพื่อให้เศรษฐกิจของภูมิภาคฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว พล.อ.ประยุทธ์ เสนอว่าอาเซียนควรจะเร่งลงนามในความตกลง RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) ซึ่งเป็นความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาค ที่เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียน 10 ประเทศ กับคู่ภาคี 6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
- ความร่วมมือในการพัฒนาวัคซีนโควิด-19
นายกฯ ประกาศว่าไทยจะไทยร่วมบริจาคเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐเข้ากองทุนอาเซียนเพื่อสร้างความมั่นคงทางสาธารณสุข หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และส่งเสริมความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
นายกฯ ทิ้งท้ายด้วยการขอบคุณประเทศสมาชิกอาเซียนที่ดูแลช่วยเหลือคนไทยในแต่ละประเทศ และอำนวยความสะดวกในการส่งคนไทยกลับบ้าน
"รัฐบาลไทยก็ได้ดูแลให้ความช่วยเหลือพลเมือง ของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ได้รับผลกระทบ้อำนวยความสะดวกการเดินทางกลับ รวมจำนวนกว่า 18,000 คน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมในอาเซียน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 มิ.ย.) | ||
---|---|---|
ประเทศ | จำนวนผู้ติดเชื้อ | เสียชีวิต |
อินโดนีเซีย | 50,187 | 2,620 |
สิงคโปร์ | 42,736 | 26 |
ฟิลิปปินส์ | 33,069 | 1,212 |
มาเลเซีย | 8,600 | 121 |
ไทย | 3,158 | 58 |
เวียดนาม | 352 | 0 |
เมียนมา | 293 | 6 |
กัมพูชา | 130 | 0 |
ติมอร์-เลสเต | 24 | 0 |
ลาว | 19 | 0 |
บรูไน | 0 | 0 |
ศบค.แถลงประจำวัน พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 รายในสถานกักกันของรัฐ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์วันนี้ (26 มิ.ย.) ว่าการติดเชื้อภายในประเทศเป็นศูนย์ต่อเนื่องเป็นวันที่ 32 แต่มีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 รายทั้งหมดเป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศคือซูดานและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทั้งหมดพักอยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ
จนถึงขณะนี้มีคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อทั้งหมด 225 ราย
ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,162 ราย ผู้เสียชีวิตคงที่ 58 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 64 ราย และรักษาหายแล้ว 3,040 ราย
สำหรับประเด็นการผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 5 นั้น นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ศบค. ชุดใหญ่จะประชุมเพื่อหาข้อสรุปในวันจันทร์ (29 มิ.ย.) ที่จะถึงนี้ โดยจะพิจารณารายละเอียดมาตรการหลังมีการผ่อนคลายระยะที่ 5 โดยเฉพาะกลุ่มที่ผ่อนผันให้เดินทางเข้าประเทศด้วยเหตุเฉพาะ มาตรการรองรับการศึกษาของเด็กชายแดน รวมถึงการขอยกเว้นการเว้นระยะห่างนั่ง-ยืน 1 เมตรภายในรถสาธารณะและรถไฟฟ้า