WHO ระบุ “โอมิครอนล่องหน” ครองโลกแล้วในขณะนี้

วันนี้ ( 30 มี.ค. 65 )องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุล่าสุดว่า เชื้อโควิดกลายพันธุ์ “โอมิครอน” สายพันธุ์ย่อย “BA.2” ฉายา “โอมิครอนล่องหน” กลายเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดมากที่สุดในโลกไปแล้วในขณะนี้ โดยพบร้อยละ 86 ของการติดเชื้อโควิดทั่วโลก และเป็นเหตุให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้นทั้งในเอเชียและยุโรป 

ความร้ายกาจของ BA.2 คือ ติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์โอมิครอน BA.1 และ BA.1.1 และยังมีความสามารถเช่นเดียวกับเชื้อโอมิครอนดั้งเดิม กล่าวคือ สามารถหลบภูมิคุ้มกันจากวัคซีนต้านโควิดได้ 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากสำนักงานความมั่นคงด้านสาธารณสุขของสหราชอาณาจักร ยืนยันว่า ภูมิคุ้มกันที่ได้จากวัคซีนต้านโควิด สามารถฟื้นคืนกลับมาได้ ด้วยการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ที่สามารถป้องกันทั้งการเข้าโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากโควิดได้

นอกจากนี้ WHO ระบุว่า แม้จะติดต่อได้ง่ายกว่า แต่ BA.2 ไม่ได้ทำให้เกิดอาการรุนแรงมากไปกว่าเชื้อโอมิครอนตัวแรก

ส่วนสถานการณ์โควิดที่สหรัฐฯ ล่าสุด มหาวิทยาลัย จอห์นส์ ฮอปกินส์ ในสหรัฐฯ รายงานว่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ทะลุ 80 ล้านคนเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.) ไปอยู่ที่ 80,003,415 คน ส่วนยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดล่าสุด อยู่ที่ 978,177 คน

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ระบุในรายงานประเมินสถานการณ์ระบาดของโควิดในสหรัฐฯ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.) ว่า ขณะนี้โควิดกลายพันธุ์ “โอมิครอน” สายพันธุ์ย่อย “BA.2” ได้กลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่ระบาดไปทั่วสหรัฐฯ แล้ว โดยพบในผู้ติดเชื้อโควิดเกินกว่าครึ่งหนึ่ง 

ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอรส์รายงานว่า ยอดติดเชื้อโควิดให้เอเชียพุ่งเกิน 100 ล้านคนแล้วเช่นกันในวันพุธนี้ โดยพบเป็นการระบาดของสายพันธ์ย่อย BA.2 เป็นส่วนใหญ่ แต่เอเชียมีสัดส่วนผู้ติดเชื้อราว 21% ของทั้งโลก แม้จะมีประชากรรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกก็ตาม

นอกจากนี้ ยังพบว่า เกาหลีใต้คือประเทศที่มีรายงานยอดติดเชื้อรายวันมากที่สุดในโลกตอนนี้ คือ คิดเป็นหนึ่งในสี่ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีการรายงานจากทั่วโลกเข้ามาต่อวัน

ภาพจาก : AFP