รีเซต

ของแพงขึ้นหัวจรดเท้า คนอเมริกาจะจ่ายอะไรแพงขึ้นบ้าง ? จากนโยบายภาษีของทรัมป์

ของแพงขึ้นหัวจรดเท้า คนอเมริกาจะจ่ายอะไรแพงขึ้นบ้าง ? จากนโยบายภาษีของทรัมป์
TNN ช่อง16
9 เมษายน 2568 ( 17:03 )
14

ซื้อสมาร์ทโฟนราคาเฉียดแสน เสื้อเชิ้ตตัวละหลายพันบาท แม้แต่ Nintendo Switch ที่เปิดตัวใหม่ เกมเมอร์อเมริกัน ก็ต้องซื้อแพงกว่าคนทั้งโลก ทั้งหมดทั้งมวล เพราะทรัมป์ขึ้นภาษี 60 ชาติทั่วโลก 10-104%


ภาษีทรัมป์ทำเอาทั้งโลกปั่นป่วน แต่คนที่เดือดร้อนไม่ใช่ใคร นอกจากคนอเมริกันเอง ที่เสื้อผ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ข้าวของอาหาร จะขึ้นราคาหมด แล้วของเหล่านั้น จะแพงขึ้นเท่าไหร่ ?


หากบริษัทอเมริกันนำเข้าสินค้าเข้ามา แล้วเจอภาษี 10-104% แบบนี้ ก็จะมีทางเลือกคือ รับภาระส่วนต่างภาษีไว้เอง หรือผลักภาระส่วนต่างไปให้ผู้บริโภค 


เรามาดูตัวอย่างจากข้าวของที่คนอเมริกันใช้ในชีวิตประจำวันว่า ข้างของเหล่านี้มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งสูงแค่ไหน ถ้าบริษัทผู้นำเข้า ผลักภาระให้คนอเมริกันทั้งหมด

  • เสื้อเชิ้ตธรรมดานี่แหละ ผลิตจากบังกลาเทศ ที่เจอภาษีนำเข้า 37% ราคาเสื้อเชิ้ตอย่างดี 1,700 บาท ราคาจะพุ่งไป 2,400 บาททีเดียว

  • สมาร์ทโฟน เอายี่ห้อดัง ๆ เกาหลีใต้ ราคา 70,000 บาทตัวท็อปเลย เกาหลีใต้เจอภาษี 25% ก็หมายความว่า ราคาจะขึ้นไปที่ 88,000 บาท

  • เครื่องเกม นินเทนโด สวิชซ์ 2 ที่เพิ่งออกมาแล้ว ราคาในสหรัฐฯ 17,300 บาท ญี่ปุ่นเจอภาษี 24% ราคาก็จะเพิ่มไปที่กว่า 21,000

  • นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์บ้าง เจอภาษี 31% นาฬิกาชั้นดีราคา 116,000 บาท จะขึ้นไปที่ 152,700 บาทเลยทีเดียว

  • รองเท้ากีฬา จากเวียดนาม โดนภาษี 46% จากราคา 3,900 บาท เป็น 5,800 บาท


แต่นี่แค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง เพราะถ้าเป็นสินค้านำเข้าจากจีน หนักกว่านี้อีกกว่าเท่าตัว เพราะสหรัฐฯ ขึ้นภาษีจีน 3 เด้ง

ภาษีที่ขึ้นไปแล้วก่อน 2 เมษายน 20% บวก ภาษีต่างตอบแทน 34% บวกภาษีชุดใหม่จากทรัมป์อีก 50% รวมเป็น 104%

  • กางเกงยีนส์อย่างดี Made in China ราคาราว 1,700 บาทในสหรัฐฯ พอจีนเจอภาษี 104% ก็จะราคาเพิ่มเป็น 3,451 บาท เรียกว่าราคาเพิ่มกว่าเท่าตัว 

  • กระเป๋าแบรนด์เนมดี ๆ ผลิตจากจีน สมมติราคา 11,000 บาท ราคาจะเพิ่มไปถึง 24,604 บาท เลยทีเดียว

ย้ำว่านี่ เป็นกรณีร้ายแรงสุด หากผู้นำเข้าผลักภาระส่วนต่างราคาที่มาจากภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นไปให้ผู้บริโภคแบกรับ


นอกจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และแฟชั่นแล้ว ของกินอื่นๆ เองก็จะราคาแพงขึ้นด้วย เช่น 

  • แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะเบียร์ และ ไวน์จากยุโรป ที่ราคาจะขึ้น 20% 

  • กาแฟ ที่ส่วนใหญ่นำเข้าจากโคลอมเบีย และบราซิล ราคาจะเพิ่มขึ้น 10% 

  • อื่นๆ อย่างเช่น ช็อคโกแลต น้ำมันพืช ถั่ว ชีส และข้าวที่นำเข้าจากไทยด้วย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง