ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 50 เปอร์เซ็นต์

เมื่อวานนี้ (30 พฤษภาคม) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า สหรัฐฯ จะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์เป็น 50 เปอร์เซ็นต์ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันพุธที่ 4 มิถุนายนนี้
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการปราศรัยที่เมืองพิตต์สเบิร์กในรัฐเพนซิลเวเนีย โดยทรัมป์ระบุว่า มาตรการนี้จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ลดการพึ่งพาจีน และเสริมสร้างความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ
ทรัมป์ยังเปิดเผยว่า มีแผนการลงทุนมูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอุตสาหกรรมเหล็กของภูมิภาคดังกล่าวผ่านความร่วมมือระหว่างบริษัท US Steel ของสหรัฐฯ และ Nippon Steel ของญี่ปุ่น แม้ว่ารายละเอียดของความร่วมมือดังกล่าวยังไม่ชัดเจน และทั้งสองบริษัทยังไม่ได้ออกมายืนยันข้อตกลงดังกล่าวอย่างเปป็นทางการก็ตาม
ทรัมป์ยังให้คำมั่นว่าจะไม่มีการเลิกจ้างหรือย้ายฐานการผลิต และคนงานโรงงานเหล็กทุกคนจะได้รับโบนัสเพิ่ม 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ เขายังกล่าวถึงมาตรการภาษีเหล็ก 25 เปอร์เซ็นต์ ที่เขาเคยประกาศใช้ในปี 2018 ว่าเป็นการ "ช่วยชีวิต" บริษัท US Steel และการเพิ่มอัตราภาษีเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ จะยิ่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ
การประกาศนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข้อพิพาททางกฎหมายเกี่ยวกับความชอบธรรมของมาตรการภาษีของทรัมป์กับหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งศาลอุทธรณ์ได้อนุญาตให้ดำเนินการต่อไป หลังจากที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ระงับการจัดเก็บภาษีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของทรัมป์จะไม่ได้รับผลกระทบจากคดีความนี้