รีเซต

เปิดสถิติทิศทางเข้าไทยเดือนก.ย. ในรอบ 74 ปี

เปิดสถิติทิศทางเข้าไทยเดือนก.ย. ในรอบ 74 ปี
TNN ช่อง16
2 กันยายน 2568 ( 16:03 )
9

เมื่อเข้าสู่เดือนกันยายน หลายพื้นที่ของประเทศไทยจะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากเดือนอื่น ๆ เพราะเป็นช่วงที่ฝนตกชุกต่อเนื่อง แทบทุกภูมิภาคต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากทั้ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่ยังคงพัดปกคลุมอย่างแข็งแรง รวมถึง ร่องมรสุม ที่มีกำลังแรงขึ้น และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามก็คือ พายุหมุนเขตร้อน ที่มักจะก่อตัวในช่วงเวลานี้ของปี


หากย้อนดูข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2494 จนถึง พ.ศ. 2567 หรือกว่า 74 ปี พบว่ามีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยในเดือนกันยายนทั้งหมด 55 ลูก ในจำนวนนี้เข้ามาในลักษณะ พายุดีเปรสชัน ถึง 50 ลูก และในระดับ พายุโซนร้อน อีก 5 ลูก


เมื่อเปรียบเทียบกับทุกเดือนของปี พบว่า กันยายนคือเดือนที่มีพายุเข้าสู่ประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากเดือนตุลาคมเท่านั้น สถิติที่ยืนยันชัดเจนว่าเดือนกันยายนเป็นช่วงเวลาที่ต้องจับตาสถานการณ์อากาศอย่างใกล้ชิด


เส้นทางของพายุหมุนเขตร้อนที่เข้ามาในประเทศไทยช่วงเดือนกันยายน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วงหลัก ๆ ครึ่งแรกของเดือนกันยายน พายุส่วนใหญ่มักก่อตัวบริเวณ ทะเลจีนใต้ตอนบน ก่อนจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนาม ผ่าน สปป.ลาว และส่งผลกระทบต่อประเทศไทย โดยจะเข้าสู่ ภาคอีสานตอนบน และ ภาคเหนือตอนบน เป็นหลัก ส่วนครึ่งหลังของเดือนกันยายน พายุมีแนวโน้มก่อตัวบริเวณ ทะเลจีนใต้ตอนกลาง จากนั้นเคลื่อนเข้าสู่ฝั่งเวียดนาม ผ่านลาว และเข้าสู่ ภาคอีสานตอนล่าง ต่อเนื่องมายัง ภาคกลาง ของประเทศไทย


ดังนั้น ในเดือนกันยายน พื้นที่ที่มีความเสี่ยงได้รับผลกระทบโดยตรงจากพายุคือ ภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง ซึ่งมักจะเผชิญฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่มในหลายพื้นที่


ผลกระทบจากพายุหมุนเขตร้อนไม่เพียงทำให้ฝนตกหนักต่อเนื่อง แต่ยังอาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เช่น น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภูเขาและเชิงเขา ความเสียหายต่อบ้านเรือน ถนน และพื้นที่เกษตรกรรม การเดินทางและขนส่งได้รับผลกระทบ ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนจึงควรเฝ้าระวังและติดตามประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในช่วงเดือนกันยายน


แม้ว่าพายุหมุนเขตร้อนจะสร้างผลกระทบด้านลบ แต่ก็มีอีกมุมที่ถือเป็นประโยชน์ต่อประเทศ นั่นคือ ปริมาณน้ำฝนจำนวนมหาศาล ที่ช่วยเติมน้ำในเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และแหล่งน้ำธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่เกษตรกรรมที่ต้องการน้ำเพื่อเพาะปลูก


เดือนกันยายนจึงถือเป็นเดือนที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงที่ประเทศไทยมีโอกาสเผชิญพายุหมุนเขตร้อนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของปี รองจากเดือนตุลาคม การติดตามพยากรณ์อากาศและเตรียมความพร้อมรับมือคือสิ่งสำคัญที่ประชาชนไม่ควรมองข้าม ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำจากพายุก็มีส่วนช่วยเติมเต็มทรัพยากรน้ำให้เพียงพอสำหรับใช้ในอนาคต

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง