รีเซต

โควิด: สาธารณสุขพม่าล่มหลังรัฐประหาร ทั่วโลกติดเชื้อทะลุ 170 ล้านคน

โควิด: สาธารณสุขพม่าล่มหลังรัฐประหาร ทั่วโลกติดเชื้อทะลุ 170 ล้านคน
ข่าวสด
30 พฤษภาคม 2564 ( 14:15 )
45
โควิด: สาธารณสุขพม่าล่มหลังรัฐประหาร ทั่วโลกติดเชื้อทะลุ 170 ล้านคน

 

โควิด: เมื่อวันที่ 30 พ.ค. รอยเตอร์ รายงานการล่มสลายของระบบสาธารณสุขในเมียนมา หลังเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมาที่ก่อรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อ 1 ก.พ. กับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (พีดีเอฟ) ที่สถาปนาขึ้นโดยการรวมตัวกันของกองกำลังชาติพันธุ์ภายใต้ธงรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (เอ็นยูจี) ของฝ่ายประชาธิปไตย ท่ามกลางการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 เข้าสู่สภาวะไร้ทิศทาง ระบบการตรวจหาและรักษาผู้ติดเชื้อแทบไม่สามารถทำงานได้

 

โรงพยาบาลหลายแห่งในเมียนมาขาดแคลนออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยวิกฤต เจ้าหน้าที่การแพทย์บางส่วนทำได้เพียงปลอบโยนผู้ป่วยและให้ยาแก้ปวด เนื่องจากขาดแคลนทั้งเวชภัณฑ์ รถพยาบาล แพทย์ และไฟฟ้า เช่น ที่โรงพยาบาลจังหวัดซิคคา รัฐชิน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เหลือเจ้าหน้าที่เพียง 11 คน ปฏิบัติงานได้เพียง 3 คน ดูแลประชาชนกว่า 1 หมื่นคน

นายสเตฟาน พอล โจสต์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำเมียนมา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่การแพทย์เสียชีวิตจากการสู้รบแล้ว 3 ราย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยถูกโจมตี 179 ครั้ง เจ้าหน้าที่การแพทย์ถูกเผด็จการทหารเมียนมาจับกุมอย่างน้อย 150 คน ในข้อหายุยงปลุกปั่นและเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านยึดอำนาจ นำไปสู่การหยุดงานประท้วงของแพทย์จำนวนมาก

 

ด้านระบบการตรวจหาผู้ติดเชื้อลดลงชัดเจนเหลือเพียง 1,200 ครั้งต่อวัน จากเดิมกว่า 17,000 ครั้งต่อวันในช่วงรัฐบาลประชาธิปไตยครึ่งใบของนางออง ซาน ซู จี ขณะที่ผู้ติดเชื้อรายวันในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,200 คน

 

แต่หลายฝ่ายมองว่าข้อมูลอาจไม่สะท้อนข้อเท็จจริงในพื้นที่ ขณะที่บรรดาหน่วยงานสาธารณสุขบริเวณพื้นที่ติดกับชายแดนอินเดียเผชิญกับแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มจำนวนต่อเนื่อง โดยกังวลว่าอาจเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่พบในอินเดีย (บี.1.617.2) แต่ไม่มีอุปกรณ์ตรวจ และโรงพยาบาลบางแห่งพยายามนำเครื่องพ่นละอองยาขยายหลอดลมมาใช้บรรเทาผู้ป่วยที่ต้องการออกซิเจน แต่เครื่องทำงานได้เพียง 2 ชั่วโมงต่อวันที่กระแสไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้

 

นายโจสต์ระบุว่า WHO ระหว่างพยายามติดต่อทางการเมียนมาเพื่อส่งความช่วยเหลือเข้าไปยังเมียนมาแต่ยอมรับว่าสถานการณ์มีความยากลำบากมาก หากการสู้รบยังทวีความรุนแรงอย่างที่เป็นอยู่

 

วันเดียวกัน ทางการรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย พบกลุ่มผู้ติดเชื้อใหม่อีก 5 คน ในบ้านพักคนชราที่ในนครเมลเบิร์นโดยไม่สามารถหาที่มาได้ หลังเพิ่งประกาศล็อกดาวน์นครดังกล่าวไปเข้าสู่วันที่สามจากกรณีรั่วไหลออกมาจากโรงแรมที่ใช้กักตัวพลเมืองที่กลับมาจากต่างประเทศ

 

นายเจมส์ เมอร์ลิโน รักษาการผู้ว่าการรัฐวิกตอเรีย กล่าวโจมตีรัฐบาลกลางต่อความล่าช้าของโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชาชน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่แนวหน้า และมาตรการเยียวยาที่ไม่เพียงพอ ขณะที่นายไมเคิล แม็คคอร์แม็ค รองนายกรัฐมนตรี ตอบโต้ว่า โครงการฉีดวัคซีนจะต้องดำเนินไปตามระบบ เพราะไม่ใช่การแข่งขันกัน

 

ด้านความคืบหน้าสถานการณ์ในประเทศเวียดนามหลังพบไวรัสก่อโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนพันธุกรรมระหว่างเชื้อกลายพันธุ์ที่พบในอังกฤษ (บี.1.1.7) กับที่พบในอินเดีย ล่าสุด ทางการนครโฮจิมินห์ประกาศใช้มาตรการชะลอการระบาดและเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ 31 พ.ค. เป็นต้นไป ขณะที่นครกวางโจว ภาคใต้ของจีนที่เพิ่งล็อกดาวน์ไปทางการจีนอยู่ระหว่างระดมการตรวจหาผู้ติดเชื้อแบบบ้านต่อบ้าน

 

สถานการณ์การระบาดรอบใหม่ในเอเชียเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะการติดเชื้อที่เริ่มลดลงทั่วโลก แต่ยังมีหลายพื้นที่ที่อยู่ในภาวะวิกฤต อาทิ เยอรมนี พบผู้ติดเชื้อใหม่ 3,852 คน เสียชีวิตเพิ่ม 56 ราย และอินเดีย พบผู้ติดเชื้อใหม่ 165,553 คน เสียชีวิตเพิ่ม 3,460 ราย ขณะที่ยอมผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกใกล้ทะลุ 170 ล้านคน เสียชีวิตกว่า 3.5 ล้านราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง