เสนอตั้งชื่อวัคซีนโควิดว่า "วัคซีนทรัมป์" ตามชื่อ "โดนัลด์ ทรัมป์"

วันนี้ (21 พ.ย.63) สื่อต่างประเทศรายงานว่า มีผู้เสนอให้ตั้งชื่อวัคซีนโควิด19 ว่า “วัคซีนทรัมป์” ตามชื่อของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยผู้ที่เสนอคือ เจอรัลโด ริเวร่า ผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ “ฟ็อกซ นิวส” ซึ่งเป็นสื่อที่เป็นมิตรกับประธานาธิบดีทรัมป์

ริเวร่า กล่าวในรายการ ฟ็อกซ แอนด์ เฟรนดส์ ของฟ็อกซ นิวสเมื่อวานนี้ (ศุกร์) ว่า ควรจะตั้งชื่อวัคซีนโควิด19 ตามชื่อของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ทรัมป์ ในยามที่ทรัมป์กำลังจะต้องลงจากตำแหน่งไป 

ข้อเสนอของริเวอร่า ไม่ใช่เป็นเพียงใช้ชื่อของ “ทรัมป์” กับวัควัคซีนโควิดเพียงตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น แต่เขาเสนอให้ใช้ชื่อ “ทรัมป์” เป็น “ชื่อสามัญ” สำหรับใช้เรียกวัคซีนโควิดใดๆ ก็ตาม

ทำให้ในอนาคตชาวอเมริกันทุกคนอาจจะต้อง “ได้รับทรัมป์” เป็นประจำทุกปี คือการได้รับการฉีดวัคซีนโควิดที่มีชื่อว่าทรัมป์ ทุกๆ ปี ถ้าหากว่าข้อเสนอของเจอรัลโด ริเวร่า กลายเป็นความจริง

ข้อเสนอนี้ มีขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังมีข่าวดีครั้งใหญ่เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด19 หลังบริษัท “ไฟเซอร์” ของสหรัฐ ที่พัฒนาวัคซีนโควิด ร่วมกับไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี ได้เสร็จสิ้นการทดลองวัคซีนขั้นสุดท้ายในมนุษย์แล้วในสัปดาห์นี้ และเพิ่งยื่นขออนุมัติการใช้วัคซีนโควิด19 ในกรณีฉุกเฉินเป็นครั้งแรกเมื่อวานนี้ (ศุกร์) ต่อองค์การอาหารและยาสหรัฐ หรือเอฟดีเอ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะตื่นเต้นดีใจ หากข้อเสนอนี้กลายเป็นจริง แต่ในขณะเดียวกันนั้น ทรัมป์ก็คงจะอดรู้สึกโกรธจนควันออกหูไม่ได้ ที่เขาไม่สามารถได้รับผลดีใดๆ จากการพัฒนาวัคซีนโควิด19 ทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ริเริ่มโครงการเร่งรัดพัฒนาวัคซีน ที่เรียกว่า Operation Warp Speed ซึ่งให้เงินทุนสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนโควิด

และมีการตั้งข้อสังเกตโดยสื่อว่า แม้แต่ไฟเซอร์เอง ยังพยายามทำตัวให้ออกห่างจาก Operation Warp Speed ของทรัมป์ เมื่อหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาวัคซีนของไฟเซอร์ กล่าวทันที หลังจากเปิดเผยความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีนโควิดว่า แม้ว่าไฟเซอร์จะได้รับสัญญาผลิตวัคซีนให้แก่รัฐบาลทรัมป์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจะได้รับเงินจากการขายวัคซีนให้แก่รัฐบาลทรัมป์เป็นเงิน 1,950 ล้านดอลลาร์ แต่ในด้านของการวิจัยและพัฒนาของบริษัทแล้ว ไฟเซอร์ไม่เคยรับเงินใดๆ จากรัฐบาลของทรัมป์เลย

ล่าสุด เอฟดีเอจะพิจารณาอนุมัติวัคซีนโควิดของไฟเซอร์ ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ มีการคาดว่า การอนุมัติอาจมีขึ้นในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ และจะเริ่มฉีดให้แก่ชาวอเมริกันได้ทันทีภายในปีนี้