ผู้ประท้วงชุมนุมต่อต้านความรุนแรงต่อชาวเอเชียทั่วสหรัฐฯ
วันนี้ ( 28 มี.ค. 64 )ผู้ประท้วงหลายพันคนออกมารวมตัวชุมนุมในกว่า 60 เมืองใหญ่ทั่วประเทศช่วงสุดสัปดาห์นี้ ทั้งที่นครนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส ชิคาโก ดีทรอยต์ และพอร์ทแลนด์ เพื่อเรียกร้องยุติความรุนแรงต่อต้านคนเอเชีย หลังเกิดเหตุกราดยิงที่สปาหลายแห่งในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เมื่อเกือบสองสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน ในจำนวนนี้ 6 คนเป็นหญิงชาวเอเชีย ก่อความกังวลเกี่ยวกับอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้นอย่างมากท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้ประท้วงหลายคนถือป้ายที่มีข้อความให้หยุดมองคนเอเชียเป็นปีศาจร้าย และหยุดก่อความรุนแรงต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย
จากข้อมูลของศูนย์การศึกษาด้านความรุนแรงและความเกลียดชังต่อชาวเอเชียพบว่า เหตุความรุนแรงที่พุ่งเป้าไปที่ชาวเอเชียเชื้ือสายอเมริกันใน 16 เมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ ในปี 2020 เพิ่มขึ้นถึง 149% เมื่อเทียบกับปี 2019 โดยถูกจุดชนวนจากสถานการณ์โรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ในช่วงต้นปี 2020 ที่นักการเมืองจำนวนหนึ่ง
รวมถึง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น ออกมาบอกว่าเป็นโรคระบาดที่เกิดจากไวรัสอู่ฮั่นหรือไวรัสจีน ทำให้ชาวอเมริกันทั่วไปเริ่มมองชาวเอเชียว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้โควิด-19 ระบาดในประเทศ นำมาซึ่งเหตุทำร้ายพุ่งเป้าไปที่ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเพิ่มมากขึ้น