โบรกมอง Bank ราคาถูกเกินไป เริ่มคุ้มเสี่ยงเข้าลงทุน ชู TISCO เด่น

ทันหุ้น-สู้โควิด : บล.เอเชีย พลัส หรือ ASPS มองภาพรวมกำไรสุทธิกลุ่มฯ 3Q63 (รวม 8 ธนาคาร ให้คำแนะนำ 6 ธนาคาร ยกเว้น BAY และ TMB) เท่ากับ 2.9 หมื่นล้านบาท ลดลง 1.4% QoQ (ดีกว่าคาดติดลบ 6% QoQ)

โดยเห็นการฟื้นตัวเด่นสุดในกลุ่มฯ จาก KBANK (FV@B90) ราว 2 เท่า QoQ จากฐานต่ำงวดก่อน (-33% yoy) และการตั้งผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit loss) ต่ำลงจากงวดก่อน อย่างมีนัยฯ หลังผู้บริหารธนาคาร มีมุมมองผ่อนคลายกว่า 2Q63 ตามด้วย BBL (FV@B127) เติบโต 30% QoQ (-57% yoy) และ TISCO (FV@B80) เพิ่ม 21% QoQ (-14% yoy) จากภาระการตั้ง ECL ต่ำลงจาก 2Q63 

ขณะที่ KKP กำไรเติบโต 14% QoQ เพราะผลขาดทุนรถยึดลดลง ส่วน BAY, SCB, TMB รายงานกำไรอ่อนตัว QoQ จากการตั้ง ECL สูงขึ้น ส่วน KTB แม้ ECL ลดลงจากงวดก่อน ลดลง เพราะมีการตั้งสำรองให้ลูกหนี้รายใหญ่รายหนึ่ง แต่ยังอยู่ในระดับสูง กอปรกับรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิและค่าธรรมเนียม อ่อนตัว QoQ สวนทางค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น

สำหรับ NIM กลุ่มฯ ลดลงมาที่ 2.93% จาก 2.99% ในงวดก่อน จากธนาคารใหญ่อย่าง SCB, KBANK, KTB และ BAY ผลกระทบต่อเนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายช่วง พ.ค. 63 รวมถึง KTB มีรายการพิเศษในงวดก่อน โดย TISCO มีพัฒนาการของ NIM ดีสุดจาก 4.34% งวดก่อนเป็น 4.73% เนื่องจากงวดก่อนมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนการเงินดีขึ้น ตามสภาวะดอกเบี้ยขาลง ตามด้วย BBL NIM สูงขึ้นจากการรวม Permata เต็มไตรมาส

ขณะที่ Credit Cost กลุ่มฯ ลดลงเหลือ 1.87% จาก 2.34% ในงวดก่อน เหตุเพราะหลายธนาคารมีการตั้ง ECL สูงไปแล้วในช่วง 1H63ตามที่ได้กล่าวไปแล้วในช่วงต้น

ด้านคุณภาพสินทรัพย์ NPL Ratio อยู่ที่ 3.45% ใกล้เคียงสิ้นงวดก่อนที่ 3.43% โดย SCB NPL Ratio ปรับขึ้นจาก 3.05% เป็น 3.32% จากการจัดชั้นเชิงคุณภาพ ทั้งนี้ สินเชื่อราว 20% - 30% ยังอยู่ในมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ทำให้ความชัดเจนของคุณภาพสินทรัพย์จะสะท้อนสภาพเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ 4Q63 – 1Q64 เป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตามใกล้ชิด โดย แต่ธนาคารอย่าง TISCO, KBANK และ BBL เริ่มตั้ง ECL เพื่อรองรับความเสี่ยงตั้งแต่ช่วงต้นปี ช่วยลดแรงปะทะจาก NPL ในอนาคต

คงน้ำหนักลงทุน น้อยกว่าตลาด จากคุณภาพสินทรัพย์ที่อ่อนแอ เลือก ธนาคารที่มีการตั้ง ECL สูง เลือก TISCO เป็น Top pick กลุ่มฯ จากสำรองสูง สะท้อนจาก Coverage ratio สูงสุดในกลุ่มฯ ที่ 196% รวมทั้งสัดส่วนลูกหนี้เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือ ค่อนข้างต่ำ (20% ของพอร์ตสินเชื่อ) และอัตราเงินกองทุน (CAR) สูงสุดในกลุ่มฯ ที่ 22.6% (เฉลี่ยกลุ่มฯ ราว 18.6%) อีกทั้งในกรณีที่ ธปท. อนญาตให้จ่ายเงินปันผล คาดหวัง Div Yield ตามด้วย KBANK และ BBL ราคาปรับฐานมากพอสมควร