รีเซต

โบรกฯ คาด SET ย่อตัวสะสมกำลังรอปัจจัยบวกใหม่

โบรกฯ คาด SET ย่อตัวสะสมกำลังรอปัจจัยบวกใหม่
ทันหุ้น
13 พฤศจิกายน 2563 ( 08:55 )
96
โบรกฯ คาด SET ย่อตัวสะสมกำลังรอปัจจัยบวกใหม่

ทันหุ้น : บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ระบุ SET Index  ปิดที่ระดับ 1336.31 จุด (-9.03 จุด) รอบเช้ารอบดู หากสามารถยืนแนวรับ 1327 จุด (แนวรับย่อย) มีโอกาสได้เห็นการฟื้นตัวขึ้นแตะ High เดิมอีกครั้งที่บริเวณ 1356 จุด ภาพหลักถ้ายังไม่ปิด Gap ที่ 1293 จุด จะรักษาแนวโน้มเชิงบวกเอาไว้ได้

 

กลยุทธ์การลงทุน

มีหุ้น  ให้เริ่มทยอยขายทำกำไรบางส่วน แล้วรอเข้าสะสมใหม่ตามระดับแนวรับ

ไม่มีหุ้น  หาจังหวะเข้าซื้อในช่วงย่อตัว หากดัชนีลงมาปิด Gap ที่ 1293 จุด ให้ตัดขาดทุนทั้งหมดทันที

 

ประเมินแนวรับ 1327/1313  แนวต้าน 1356/1380

 

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดดัชนีฯ พักตัวรอข่าวบวกใหม่ๆ โดยเฉพาะความคืบหน้าเรื่องวัคซีน ขณะที่สหรัฐฯ เตรียมทยอยทำ partial lockdown  ข่าวบวกคือ ธปท.อนุมัติให้ธนาคารจ่ายเงินปันผลได้และกำไรตลาดน่าจะออกมาดีกว่าคาด   กลยุทธ์วันนี้ รอจังหวะซื้อกลับ ให้ความสนใจกับกลุ่มธนาคารและหุ้นงบดีมากขึ้น และลดหุ้นอิงท่องเที่ยว(ชั่วคราว) 

 

Covid-19 เวลาให้น้ำหนักกับตลาดสองทาง ทางที่เป็นบวกคือ วัคซีนสามารถคิดค้นขึ้นมาได้  จากนี้อยู่ที่กระบวนการพัฒนาและแจกจ่ายซึ่งต้องใช้เวลา และรายอื่นๆ นอกจาก Pfizer คาดทยอยประกาศผลสำเร็จตามมา และฝั่งที่เป็นลบ คือการติดเชื้อเพิ่มในสหรัฐฯ น่าจะเริ่มทำ partial lockdown กันแล้ว เรามองเป็นตัวแปรที่มาลดทอนความบวกเรื่องวัคซีนในช่วงสั้นๆ หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวของไทย ที่ราคากระโดดขึ้นมามากน่าจะเห็นการขายทำกำไรหุ้นเหล่านี้ออกมา 

 

ปท.อนุมัติให้ ธนาคารพาณิชย์(ธพณ.) จ่ายเงินปันผลปีนี้ได้ มีเงื่อนไขไม่เกินที่จ่ายปีก่อน และไม่เกิน 50% ของกำไรปีนี้ อาจเป็นลบต่อหุ้นที่อาจจ่ายได้ต่ำกว่าคาด และโดยรวมๆธนาคารส่วนใหญ่น่าจะจ่ายได้มากกว่าที่เคยคาด เราจึงมองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารสำหรับข่าวนี้ 

 

กำไร 3Q-20 ของตลาดที่จะสิ้นสุด 16 พ.ย.นี้ เรารวบรวมมาแล้ว 421 บริษัท กำไรหุ้นใน SET ล่าสุด 1.1 แสนลบ. -36% YoY ; +14% QoQ และดีกว่าตลาดคาด 3.8%  เรามองว่า กำไรที่ออกมาดีกว่าคาด (แม้จะรวม THAI ไปแล้ว) จะทำให้นักลงทุนมีมุมมองในเชิงบวกต่อกำไรตลาดมากขึ้น

 

#Strategy

3 ตัวแปรหลักวันนี้ Covid-19, ธพณ.จ่ายเงินปันผลได้ และกำไรตลาดดีกว่าคาด ทำให้เรายังมองแนวโน้มตลาด 4Q ว่ายังดีอยู่ แต่ช่วงสั้นๆ อาจมีการพักตัวบ้าง กลยุทธ์วันนี้ รอจังหวะซื้อกลับ ให้ความสนใจกับกลุ่มธนาคารและหุ้นงบดีมากขึ้น และลดหุ้นอิงท่องเที่ยว(ชั่วคราว) พอร์ตหุ้นวันนี้ เรานำ AAV  ออกจากพอร์ต และนำ SCGP*, KBANK เข้ามาแทน พอร์ตหลักวันนี้ จะประกอบด้วย  SCGP*(10%), KBANK(10%),  BANPU*%), GPSC(10%), (10%), KTC(10%), KCE(20%), MTC(10%) ส่วนพอร์ต KTBST SET50 Skynet คงเหลือหุ้น  RATCH (20%), GULF(10%), CBG(10%)

 

#Strategy top picks

KCE : (เป้าเชิงกลยุทธ์ 40 บาท)  “ กำไรจะดีขึ้นมากตั้งแต่ 4Q เป็นต้นไป ”

- ผู้บริหารมีคาดจะเริ่มเห็นกำไรฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ 4Q20 เป็นต้นไป ที่รายได้จะทำสถิติสูงสุดของปี

- ความสามารถในการทำกำไร วัดจาก  gross profit margin  ยังดีต่อเนื่อง โดย 4Q20 มีแนวโน้มสูงกว่า 1Q20 ที่ 24% จากการผลิตเต็มกำลังการผลิต,

- เงินบาทแข็งค่ากระทบกำไรจำกัด เนื่องจากเงินหยวนแข็งค่ามากกว่าเงินบาท

- ผลการดำเนินงานปีหน้า จะดีขึ้นไปอีก จากผลิตภัณฑ์ HDI (PCB special grade) ที่จะมีการเติบโตสูง และมี margin ที่ดีด้วย

 

Technical : SAT, NRF

 

**บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาด SET Index ยังอยู่ในช่วงแกว่งพักฐานระยะสั้นในกรอบ 1,320-1,350 จุดชะลอความร้อนแรงหลังจากปรับตัวขึ้นราว 12% ในช่วงเกือบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยแม้จะมีประเด็นบวกจากพัฒนาการของวัคซีน COVID-19 

 

อย่างไรก็ตามคาดต้องใช้ระยะเวลาอีกระยะหนึ่งก่อนได้อนุมัติและผลิตเชิงพาณิชย์ซึ่งคาดอาจเป็นช่วง 2Q21 ขณะที่ประธาน FED ยังคงแสดงความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน 4Q20 ที่ยังท้าทายจากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้น ซึ่งมีความจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลังอย่างต่อเนื่อง 

 

ประเมินว่าหุ้นในกลุ่ม Global Play และ Vaccine Play จะอ่อนตัวพักฐานระยะสั้น ขณะที่หุ้นที่ยัง Laggard และมีกำไร 3Q20 แข็งแกร่งรวมถึงมีโมเมนตัมดีต่อใน 4Q20 มีโอกาสกลับมา Outperform แทนในระยะนี้

 

กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่ยัง Laggard และมีกำไร 3Q20 โดดเด่น//รอทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานช่วงตลาดพักฐานบริเวณ 1,300 จุด+-

 

หุ้นเด่นเดือนพ.ย. :AP, BCH, CBG, MAKRO, ZIGA

 

หุ้นเด่นวันนี้ : SFT

 

• แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5 บาท 

• เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดฟิล์มหดรัดรูป คาดกำไรปกติ 3Q20 ราว 20 ลบ. +15% Q-Q และโตแกร่ง Y-Y (ประกาศงบวันนี้) เติบโตตามกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะ Functional Drink ที่มีผู้เล่นออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง

• ผลการดำเนินงานปี 2020-2022 เป็นขาขึ้น คาดกำไรโตเฉลี่ย 26% ต่อปี โดยโรงงานใหม่จะช่วยเพิ่ม Capacity และเข้ามารองรับการเติบโตระยะยาวในปี 2022 เป็นต้นไป

 

Fund Flow วานนี้ กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคอีก US$721 ล้าน โดยส่วนใหญ่ยังคงไหลเข้าเกาหลีใต้และไต้หวัน US$447 ล้านและ US$188 ล้าน ตามลำดับ ส่วนไทยยังคงมีเม็ดเงินไหลเข้าสูงที่สุดในกลุ่ม TIP แต่บางลงเหลือ US$74 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าคาดว่าจะชะลอการไหลเข้าหรือพลิกมาไหลออกบางๆระยะสั้นหลังตอบรับปัจจัยบวกจากประเด็นวัคซีนไปมาก ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังพุ่งขึ้นและประธาน FED และ ECB ยังมองว่าเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงที่ท้าทาย

 

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง