รีเซต

ทรัมป์เพิ่งตื่น โควิดสหรัฐแย่ลง-แต่เดี๋ยวจะดีขึ้น วอนสวมหน้ากาก-โชว์พลังรักชาติ

ทรัมป์เพิ่งตื่น โควิดสหรัฐแย่ลง-แต่เดี๋ยวจะดีขึ้น วอนสวมหน้ากาก-โชว์พลังรักชาติ
ข่าวสด
22 กรกฎาคม 2563 ( 17:15 )
71
ทรัมป์เพิ่งตื่น โควิดสหรัฐแย่ลง-แต่เดี๋ยวจะดีขึ้น วอนสวมหน้ากาก-โชว์พลังรักชาติ

 

ทรัมป์เพิ่งตื่น - วันที่ 22 ก.ค. บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่า สถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 ในสหรัฐ จะเลวร้ายลงอีกก่อนที่ทุกอย่างจะดีขึ้น พร้อมเรียกร้องให้คนอเมริกันทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อแสดงความรักชาติ

พลิกท่าทีที่เคยขัดแย้งกับ นายแพทย์แอนโธนี เฟาซี ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของสหรัฐ ท่ามกลางความยากลำบากในการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐช่วงปลายปี ซึ่งนายทรัมป์กำลังมีคะแนนนิยมตามหลังคู่แข่งจากพรรคเดโมเครติก หรือเดโมแครต

“โชคไม่ดีที่ท่าทางสถานการณ์การระบาดอาจเลวร้ายลง ก่อนที่ทุกอย่างมันจะดีขึ้น เป็นอะไรที่ผมไม่อยากพูด แต่ต้องพูดไปตามความจริง ขอให้ทุกคนที่เว้นระยะห่างทางสังคมไม่ได้ สวมหน้ากากกันด้วย ช่วยไปหามาใช้กัน ไม่ว่าทุกคนจะชอบหรือไม่ หน้ากากอนามัยมีผลแหละ และตอนนี้พวกเราต้องทำทุกอย่างที่ทำได้กันแล้ว” นายทรัมป์ กล่าว

ความเคลื่อนไหวแบบกลับตาลปัตรของผู้นำสหรัฐเกิดขึ้นหลังจากที่ทางการสหรัฐพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันใหม่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และทำสถิติใหม่รายวันเพิ่ม 68,524 คน เสียชีวิต 961 ราย ส่งผลให้สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อสะสมมากถึง 3,902,135 คน จาก 15 ล้านคนทั่วโลก

สหรัฐมียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 142,068 ราย จากทั่วโลก 6 แสนคน หายป่วย 1,182,018 คน จากทั่วโลก 9 ล้านคน ขณะที่ปริมาณผู้ป่วยไอซียูที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาลหลายแห่งตามเมืองใหญ่เริ่มรองรับไม่พอ

 

เมลเบิร์น-โตเกียวติดเชื้อพุ่งรายวัน

ด้านสถานการณ์การระบาดรอบใหม่ในประเทศออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อใหม่ 502 คน เป็นสถิติสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มการระบาดในนครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ออสเตรเลียมีผู้ติดเชื้อสะสม 13,000 คน เสียชีวิตแล้ว 128 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลถึง 3,400 คน

นอกจากนี้ พบผู้ติดเชื้อใหม่ในรัฐอื่น อาทิ นิวเซาท์เวลส์ จำนวน 16 คน รัฐควีนส์แลนด์ และเซาท์ออสเตรเลียอย่างละ 1 คน รวมถึงนครซิดนีย์ สร้างความกังวลให้ผู้เชี่ยวชาญ

เช่นเดียวกับการระบาดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทะลุ 200 คนต่อวัน ทำสถิติสูงสุด 293 คนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้นางสาวยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่ากรุงโตเกียว ขอความร่วมมือให้ชาวญี่ปุ่นอยู่บ้านในช่วงวันหยุดยาว 23-26 ก.ค.นี้ ซึ่งรัฐบาลเคยกำหนดเป็นวันหยุดพิเศษฉลองพิธีเปิดมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่เดิมจะเริ่มในวันที่ 24 ก.ค.นี้ แต่ต่อมามีมติเลื่อนไปปีหน้า แต่รัฐบาลยังไม่ได้ยกเลิกวันหยุดยาวดังกล่าว

 

ผลวิจัยเบื้องต้นชี้ชัดพูด-หายใจแพร่ไวรัส

วันเดียวกัน มีผลการศึกษาเบื้องต้นจากมหาวิทยาลัยเนบราสกา-ลินคอล์น รัฐเนบราสกา สหรัฐอเมริกว่า พบว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ซาร์ส 2 ที่ปะปนออกมากับละอองน้ำมูกน้ำลายของผู้ติดเชื้อ เพิ่มจำนวนได้จากการทดลองในห้องปฏิบัติการ

เพิ่มน้ำหนักสมมติฐานที่ว่า การพูดและหายใจของผู้ติดเชื้อทำให้ผู้อื่นติดเชื้อได้ ไม่ใช่เพียงแค่การไอ และจาม ตามที่นักวิทยาศาสตร์คาดแต่เดิมและเป็นรากฐานของข้อปฏิบัติการเว้นระยะห่างทางสังคม 2 เมตร

ทั้งนี้ คณะผู้ศึกษาข้างต้นยังเป็นคณะนักวิทยาศาสตร์ชุดเดียวกับที่ค้นพบความสามารถในการฟุ้งกระจายของไวรัสในอากาศภายในโรงพยาบาลเมื่อเดือนพ.ค. นำไปสู่การเปลี่ยนข้อแนะนำขององค์การอนามัยโลก หรือฮู เมื่อ 7 ก.ค. ต่อการสวมใส่หน้ากาก N95 ในโรงพยาบาล เพราะมีแนวโน้มว่าไวรัสอาจมีรูปแบบการแพร่ระบาดทางอากาศได้ (airborne transmission)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง