รีเซต

KLINIQ งบ Q3/66 กำไรโต 59.3% โบรกฯ ชี้ปัจจุบันยังราคาน่าสนใจ

KLINIQ งบ Q3/66 กำไรโต 59.3% โบรกฯ ชี้ปัจจุบันยังราคาน่าสนใจ
ทันหุ้น
15 พฤศจิกายน 2566 ( 10:18 )
21
KLINIQ งบ Q3/66 กำไรโต 59.3% โบรกฯ ชี้ปัจจุบันยังราคาน่าสนใจ

#ทันหุ้น - KLINIQ โชว์ผลงานไตรมาส 3/2566 กำไรโต 59.3% รายได้พุ่ง 36.8% ยอดขายจากสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 16.4% ส่วน EBITDA ดีขึ้น 45.5% “นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์” ซีอีโอ มั่นใจผลประกอบการไตรมาส 4/2566 เติบโตต่อเนื่อง มีลุ้นทำ All Time High ในปี 2566 และมีแนวโน้มดีต่อเนื่องถึงปี 2567

 

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุด 30 กันยายน 2566) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ จำนวน 70.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.3% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน และมีกำไรขั้นต้น จำนวน 318.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.2% ขณะที่มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 137.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสาขาเดิม และการขยายสาขาใหม่

 

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 591.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.8% และที่สำคัญคือ การเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม หรือ SSSG (Same Store Sales Growth : SSSG) เติบโตขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

 

ขณะเดียวกัน ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้น จำนวน 50 สาขา ประกอบด้วย THE KLINIQUE 37 สาขา, L.A.B.X 11 สาขา, THE KLINIQUE SURGERY CENTER 1 สาขา และ  KLINIQ SPA 1 สาขา

 

“ไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเติบโตในเกณฑ์ที่ดีมาก มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 59.3% มี EBITDA จำนวน 137.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.5% และมี SSSG เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าเก่า และการขยายฐานลูกค้าใหม่ และสอดคล้องกับจำนวนสาขาและการเพิ่มบริการที่ครอบคลุมความต้องการของคนไข้มากขึ้น” นายแพทย์อภิรุจ กล่าว

 

**แนวโน้ม Q4/66 โตต่อเนื่อง

 

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2566 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 บริษัทฯ ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2566 ที่ประสบความสำเร็จจากฐานลูกค้าของ THE KLINIQUE และการขยายของ L.A.B. X และการเติบโตของศูนย์ศัลยกรรม

 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มั่นใจว่าตลอดปี 2566 บริษัทฯ จะประสบความสำเร็จตามการขยายสาขา และการเปิดห้องผ่าตัดเพิ่มเติม เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าต่างชาติเข้าใช้บริการศูนย์ศัลยกรรมที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการอบรมและพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการให้บริการกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานมีโอกาสจะ All Time High ตามเป้าหมายที่วางไว้ และมีแนวโน้มที่ผลการดำเนินงานจะดีต่อเนื่องจนถึงปี 2567

 

ด้าน บล.ดาโอ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท อิง 2567E PER 30.0x KLINIQ ชี้รายงานกำไรสุทธิ Q3/66 ที่ 71 ล้านบาท (+59% YoY, ทรงตัว QoQ) ใกล้เคียงคาด 

 

กำไรขยายตัว YoY หนุนโดย 1) รายได้รวมขยายตัว +37% YoY จาก SSSG +16.4% และการขยายสาขาโดย ณ สิ้น Q3/66 มีสาขารวมทั้งหมด 50 สาขา (จาก 46 สาขาใน Q2/66) และ 2) GPM ลงจากสัดส่วนรายได้ surgery และ L.A.B.X ซึ่งมี GPM ต่ำปรับตัวเพิ่มขึ้น กำไรทรงตัว QoQ จากรายได้ +10% QoQ ช่วยชดเชย GPM ลดลง QoQ 

 

ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566E ที่ 297 ล้านบาท (+45% YoY) ทั้งนี้ กำไร 9M66 มีสัดส่วนที่ 71% ของกำไรสุทธิปี 25663E และฝ่ายวิจัยประเมินกำไรสุทธิปี 2567E ที่ 365 ล้านบาท (+23% YoY) ยังคง

ขยายตัวดี จาก SSSG ที่ขยายตัว และขยายสาขาเพิ่มอีก 9 สาขา

 

ราคาหุ้น outperform SET +2% ใน 1เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน KLINIQ เทรดอยู่ที่ 2567E PER 21.7x มองว่าราคาปัจจุบันยังน่าสนใจ โดยยังไม่สะท้อนการเติบโต 2565-67E EPS CAGR +33%

ข่าวที่เกี่ยวข้อง