รีเซต

เผยความลับ Dragon Hole หลุมน้ำเงินลึกที่สุดในโลก โลกใบใหม่ใต้ทะเลลึก

เผยความลับ Dragon Hole หลุมน้ำเงินลึกที่สุดในโลก โลกใบใหม่ใต้ทะเลลึก
TNN ช่อง16
29 ธันวาคม 2568 ( 14:15 )
7

คณะนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลจากประเทศจีน เปิดเผยรายละเอียดที่น่าทึ่งของ Dragon Hole หรือที่รู้จักกันในชื่ออย่างเป็นทางการว่า หลุมน้ำเงินหยงเล่อ (Yongle Blue Hole-YBH) ตั้งอยู่บริเวณหมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้ ซึ่งถือเป็นหลุมน้ำเงินที่มีความลึก และมีสภาพแวดล้อมที่เปรียบเสมือนโลกต่างดาวใต้ผืนน้ำ 

โดยข้อมูลดังกล่าวมาจากการศึกษาของสถาบันสมุทรศาสตร์ที่หนึ่ง (First Institute of Oceanography-FIO) และทีมงานท้องถิ่นจากเมืองซานซา (local Sansha teams) ในระหว่างปี 2016-2018 บนวารสารทางวิทยาศาสตร์ Nature

หลุมยักษ์แห่งตำนานและสถิติโลก 

หลุมน้ำเงินแห่งนี้มีความกว้างที่สุด 162.3 เมตร และลึกลงไปใต้ทะเลถึง 301 เมตร ซึ่งจากการสำรวจในปี 2016 พบว่ามันลึกกว่าหลุมน้ำเงินชื่อดังอื่น ๆ เช่น Dean’s Blue Hole ในหมู่เกาะบาฮามาส

นอกจากความโดดเด่นทางธรณีวิทยาแล้ว Dragon Hole ยังมีความสำคัญในตำนานจีน โดยปรากฏในวรรณกรรมเอกเรื่องไซอิ๋ว (Journey to the West) ว่าเป็นสถานที่ที่ซุนหงอคงมาพบกระบองทองคู่กาย แต่ในทางวิทยาศาสตร์นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าหลุมนี้เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำฝนในหินปูนช่วงที่ระดับน้ำทะเลยังต่ำอยู่ ก่อนจะถูกน้ำท่วมขังเมื่อระดับน้ำทะเลสูงขึ้น

ดินแดนอาถรรพ์ที่ไร้ออกซิเจน ลักษณะพิเศษที่ทำให้ Dragon Hole แตกต่างจากหลุมน้ำเงินอื่น คือ ความโดดเดี่ยวและความนิ่งของน้ำ เนื่องจากผนังหลุมที่ชันเกือบเป็นแนวตั้งและปากหลุมที่แคบ ทำให้กระแสน้ำและคลื่นไม่สามารถนำพาออกซิเจนจากผิวน้ำลงไปสู่ด้านล่างได้ ส่งผลให้น้ำในหลุมแบ่งตัวเป็นชั้น ๆ อย่างชัดเจน และตั้งแต่ความลึก 100 เมตรลงไป จะไม่มีออกซิเจนหลงเหลืออยู่เลย (Anoxic Zone) ทำให้พืช ปลา หรือสิ่งมีชีวิตทั่วไปไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ 

อาณาจักรจุลินทรีย์และการค้นพบสายพันธุ์ใหม่ 

แม้จะไร้ออกซิเจนและแสงสว่าง แต่พื้นที่ส่วนลึกของหลุม Dragon Hole กลับเต็มไปด้วยชีวิตในรูปแบบจุลินทรีย์ที่ดำรงชีวิตด้วยการสังเคราะห์ทางเคมี (Chemosynthesis) แทนการสังเคราะห์แสง นักวิจัยพบระบบนิเวศที่ซับซ้อนแบ่งตามชั้นความลึก  เช่น

1. ชั้น Anoxic Zone I ที่ระดับ 100-140 เมตร ถูกครอบครองโดยแบคทีเรียที่กินกำมะถันเป็นอาหาร โดยเฉพาะสายพันธุ์ไทโอไมโครแรบดัส (Thiomicrorhabdus) และซัลฟูริโมนาส (Sulfurimonas) ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 90% ของจุลินทรีย์ในชั้นนี้
2. ชั้น Anoxic Zone II ที่ระดับ 140 เมตร ลงไปถึงก้นหลุม เป็นเขตที่เสถียรทางเคมีและมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงขึ้น พบแบคทีเรียกลุ่มที่ผลิตไฮโดรเจนซัลไฟด์ เช่น แบคทีเรียเดซัลฟาติกลานส์ (Desulfatiglans) และจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องพึ่งพาออกซิเจนอีกหลายชนิด

โดยจากการศึกษาพบว่ามีจุลินทรีย์ถึง 294 สายพันธุ์ ที่ถูกนำมาเพาะเลี้ยงในห้องแล็บ โดยในจำนวนนี้มีถึง 22.2% ที่คาดว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยถูกค้นพบมาก่อน นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบไวรัสกว่า 1,730 ชนิด ในชั้นต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นปริศนาที่ต้องศึกษาต่อไป 

หลุม Dragon Hole จึงไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ศึกษาชีววิทยาสุดขั้วเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือนห้องแล็บธรรมชาติ ที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจถึงระบบนิเวศยุคแรกเริ่มของโลก และอาจเป็นกุญแจสำคัญในการจินตนาการถึงสิ่งมีชีวิตที่อาจอาศัยอยู่ในมหาสมุทรใต้พื้นผิวของดาวเคราะห์ดวงอื่น ด้วยความโดดเดี่ยวและสภาพแวดล้อมที่แทบไม่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา หลุมน้ำเงินแห่งนี้จึงยังคงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าค้นหาที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก

หลุม Dragon Hole เหมือนเป็นตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมหึมาใต้ทะเลที่ถูกปิดตาย ซึ่งตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ทำให้น้ำภายในกลายเป็นชั้น ๆ เหมือนขนมชั้นที่แต่ละชั้นมีสารเคมีและสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดอาศัยอยู่โดยไม่ปะปนกับใครมานานนับศตวรรษ การลงไปสำรวจหลุมนี้จึงไม่ต่างจากการย้อนเวลากลับไปดูโลกในยุคดึกดำบรรพ์หรือการไปเยือนดาวเคราะห์ดวงอื่นที่ไม่มีอากาศหายใจแต่ยังมีชีวิตดำรงอยู่ได้

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง