พบเหยื่อฉลามอายุมากสุดในโลก นักวิทย์ผงะ790แผลอายุ3พันปี
พบเหยื่อฉลามอายุมากสุดในโลก - วันที่ 24 มิ.ย. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ค้นพบโครงกระดูกของมนุษย์โบราณที่สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากการถูกฉลามโจมตี มีอายุเก่าแก่ถึง 3 พันปี ถือเป็นเหยื่อฉลามโจมตีที่มีอายุมากที่สุดในโลก
ผลงานดังกล่าวเป็นฝีมือของนักวิจัยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ที่แหล่งขุดค้น สึคุโมะ บริเวณทะเลเซโตะใน ประเทศญี่ปุ่น โดยการตรวจสอบพบว่าโครงกระดูกนี้เป็นของชายที่เสียชีวิตจากบาดแผลกว่า 790 แผล ทั่วร่างกายตั้งแต่แขน ขา อกด้านหน้า และท้อง
นางเจ. อลิซซา ไวต์ และนายริก ชุลติง หนึ่งในคณะนักขุดค้น ระบุว่า รู้สึกงุนงงมากว่าชายผู้นี้เสียชีวิตจากสาเหตุใดถึงมีบาดแผลได้มากเพียงนี้ เป็นบาดแผลฉกรรจ์อย่างน้อย 790 จุด
แผลหลายจุดเหมือนถูกของมีคม ลักษณะแหลมเป็นรูปร่างตัววี แทงลงไปลึกมาก ไม่เหมือนกับอาวุธที่ใช้ในยุคโจวมอน และไม่เหมือนกับลักษณะฟันของสัตว์กินเนื้อบนบกในยุคนั้นด้วย
คณะวิจัย กล่าวว่า หลังจากการตรวจสอบไปเรื่อยๆ ไม่พบว่าเป็นสาเหตุเกี่ยวกับการสู้รบระหว่างมนุษย์ หรือเป็นสัตว์ล่าเนื้อทั่วไป แต่เป็นฉลาม คาดว่าเป็นฉลามหัวค้อน หรือฉลามขาวยักษ์
คณะนักวิจัยยังทำงานร่วมกับนายจอร์จ เบอร์เกสส์ ผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยฉลามรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดประสงค์เพื่อการชันสูตรศพผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของฉลาม
นายชุลติง ระบุว่า ทางโบราณคดีแล้วมีตัวอย่างของเหยื่อที่ถูกฉลามขย้ำเสียชีวิตน้อยมาก โดยศพเดียวที่พบมาจากแหล่งขุดค้นจากเปอร์โตริโก มีอายุเก่าแก่มาตั้งแต่เมื่อค.ศ. 1000
"เหตุผลที่เราพบน้อยมาก เพราะว่าเหตุฉลามโจมตีมนุษย์นั้นเกิดขึ้นน้อยมาก แม้แต่ปัจจุบันที่จำนวนคนบนโลกมีมากขึ้น เมื่อเทียบสัดส่วนแล้วก็ยังมีคนตกเป็นเหยื่อฉลามโจมตีน้อย"
ภายหลังการศึกษาพบว่า ชายผู้นี้เสียชีวิตมาตั้งแต่ช่วง 1,370 ถึง 1,010 ปีก่อนคริสตกาล หรือประมาณกว่า 3,000 ปีที่ผ่านมา จากนั้นจึงนำโครงกระดูกมาวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจสอบเรือนร่างและบาดแผล
ผู้เชี่ยวชาญ สันนิษฐานว่า ชายผู้เสียชีวิตนั้นเป็นนักล่าสัตว์ และตอนเกิดเหตุน่าจะมีชีวิตอยู่ เนื่องจากตำแหน่งบาดแผลที่กระจายไปทั่วเรือนร่าง มือซ้ายก็หายไป แปลว่า เป็นแผลจากการต่อสู้ดิ้นรนเอาชีวิตรอด
นายชุลติง ระบุว่า นักล่าคนนี้น่าจะออกไปตกปลา อาจไปคนเดียว หรือไปกับเพื่อนหลายคน อาจตกปลาจากเรือ หรือดำน้ำเก็บหอย หรืออาจถึงขั้นล่าฉลาม เพราะฟันฉลามนั้นสามารถพบได้ตามแหล่งขุดค้นยุคโจวมอน
"เราคิดว่าน่าจะเป็นฉลามตัวเดียว หรือหลายตัวก็ไม่ทราบได้แน่ชัด เข้าโจมตีชายผู้เคราะห์ร้ายคนนี้ขณะอยู่ในน้ำ อาจจะเสียศูนย์พลัดตกจากแพ หรือถูกลากลงไปจากแพ หรือถูกเบ็ดลากลงไปในทะเล ที่แน่ใจได้คือ ฉลามไม่ได้ตัวเล็กแน่นอน"
"บาดแผลจำนวนมากบนร่างกายของชายคนนี้หมายความว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นนั้นกินเวลานานพอสมควร" ชุลติง ระบุ
ต่อมาศพของชายคนนี้ถูกเพื่อนๆ นำมาฝังพร้อมทำพิธี โดยขาขวาของชายผู้นี้หายไป ส่วนขายซ้ายนั้นถูกวางไว้บนตัวของผู้เสียชีวิต
นายมาร์ก ฮัดสัน หนึ่งในคณะนักวิจัย จากสถาบันมักซ์พลังค์ ประเทศเยอรมนี ระบุว่า การค้นพบครั้งนี้เป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่านักโบราณคดีสามารถจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงจากเหตุการณ์ในอดีตได้จากการขุดค้นหลักฐานโบราณ