รีเซต

กทม. ประกาศเตือน 4 พื้นที่กรุงเทพฯ - สมุทรปราการ ระวังพิษสุนัขบ้า ห้ามจับสัตว์จรจัด

กทม. ประกาศเตือน 4 พื้นที่กรุงเทพฯ - สมุทรปราการ ระวังพิษสุนัขบ้า ห้ามจับสัตว์จรจัด
TNN ช่อง16
25 พฤศจิกายน 2567 ( 15:38 )
37
1

วันนี้ ( 25 พ.ย. 67 )สำนักอนามัย กทม.ประกาศเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังเนื่องจากพบสัตว์ป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า บริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย ซอยอ่อนนุช 86 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยขอให้ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าว และชุมชนโดยรอบในรัศมี 5 กิโลเมตร หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์จรจัดในพื้นที่โดยเด็ดขาด ได้แก่


- แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

- แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

- แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

- ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ


ทั้งนี้ หากถูกกัดหรือสัมผัสสัตว์สงสัยโรคพิษสุนัขบ้า ให้ล้างแผลด้วยสบู่และรีบพบแพทย์ เพื่อรับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทันที หากพบสุนัขหรือแมวที่เสียชีวิต หรือมีอาการเข้าข่ายต้องสงสัยโรคพิษสุนัขบ้า (กระวนกระวาย ไม่อยู่นิ่ง กัดทุกอย่างที่ขวางหน้า ตัวแข็ง น้ำลายไหล ลิ้นห้อย) ให้โทรแจ้ง "กลุ่มควบคุมและพักพิงสุนัข" (ประเวศ) โทร 02-328-7460 และ 02-328-735


กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินมาตรการควบคุมป้องกันโรคในกลุ่มผู้สัมผัสและกลุ่มเสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้าย่านอ่อนนุช พร้อมกักสุนัขจร 51 ตัวเพื่อเฝ้าระวังอาการโรคพิษสุนัขบ้าที่ศูนย์ควบคุมสุนัขของกรุงเทพมหานคร ภายหลังได้รับแจ้งการรายงานผลตรวจยืนยันพบเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ดังกล่าว


ช่วงวันหยุดที่ผ่านมา (23-24 พ.ย.) นางทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยสำนักอนามัย, สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมประชุม และวางแผนควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย ซอยอ่อนนุช 86 เขตประเวศ โดยดำเนินการสอบสวนโรคเพื่อหาสาเหตุการเกิดโรค และดำเนินมาตรการควบคุมป้องกันโรคในกลุ่มผู้สัมผัสและกลุ่มเสี่ยง ภายหลังจากได้รับแจ้งรายงานผลจากสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ ตรวจยืนยันพบเชื้อไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ดังกล่าว


พร้อมกันนี้ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่ผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงรวม 728 คน และจับสุนัขจรจัดออกจากพื้นที่เพื่อกักเฝ้าระวังอาการโรคพิษสุนัขบ้า อีกทั้งได้ดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้สัตว์ภายในชุมชนข้างเคียง รวม 104 ตัว รวมทั้งสร้างความเข้าใจและสื่อสารความเสี่ยงให้แก่ประชาชนในพื้นที่โดยรอบทั้งหมด


ภาพจาก: AFP 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง