รีเซต

"จนท." ยังปิดล้อมปะทะต่อเนื่อง ล่าอีก 3 คนร้าย หนีซ่อนในป่า ใช้ยุทธวิธีปิดล้อมหวังเจรจาให้มอบตัว

"จนท." ยังปิดล้อมปะทะต่อเนื่อง ล่าอีก 3 คนร้าย หนีซ่อนในป่า ใช้ยุทธวิธีปิดล้อมหวังเจรจาให้มอบตัว
มติชน
6 กรกฎาคม 2564 ( 11:02 )
85
"จนท." ยังปิดล้อมปะทะต่อเนื่อง ล่าอีก 3 คนร้าย หนีซ่อนในป่า ใช้ยุทธวิธีปิดล้อมหวังเจรจาให้มอบตัว

 

จากกรณีเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ม.3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้นก่อนที่คนร้ายหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักของเจ้าของโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่ง ทำให้มีการปิดล้อมก่อนจะเจรจาให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่คนร้ายได้ตอบโต้ ต่อสู้ด้วยการใช้อาวุธยิงและขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ก่อนที่เหตุปะทะจะยาวนานถึง 7 ชั่วโมงส่งผลให้คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ราย คือ นายคูไมดี รีจิ อายุ 33 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 2 หมาย ส่วนอีกราย คือ นายอัมรี มะมิง อายุ 26 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา 1 หมายคดีลอบวางระเบิด กรุงเทพฯ เมื่อปี 62 โดยเหตุปะทะครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กค.เมื่อวานนี้

 

 

 

 

เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ กว่า 100 นาย ยังคงเฝ้าตรึงกำลังไปทั่วบริเวณ เพื่อติดตามคนร้ายที่เหลือ ที่ยังหลบหนีไปได้เมื่อวานนี้ คาดว่ายังไปได้ไม่ไกล ด้วยบริเวณแวดล้อมไปด้วย ป่า สวนยาง และนาร้าง และป่าสาคู
เมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังปิดล้อม ตามเส้นทางหลบหนี และหยุดภารกิจไว้ก่อน

 

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 6 กค. ชุดปฏิบัติการณ์ร่วม จำนวน 12 นายที่ยังคงออกติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่เหลือและหลบหนีจากเหตุปะทะ ปรากฏว่าเมื่อมาถึงบริเวณป่าต้นสาคู พื้นที่ ม.5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ได้เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้ายซึ่งมีประมาณ 3 คนพร้อมอาวุธครบมือ จึงได้วิทยุประสานกำลังเสริมเข้าพื้นที่และรายงานให้ พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.จ.ภ.จ.ปัตตานี ทราบก่อนจะเดินทางไปอำนวยการที่เกิดเหตุทันที

 

 

 

 

เมื่อไปถึงพบว่าจุดเกิดเหตุครั้งนี้ เป็นป่าต้นสาคูมีสภาพ รกทึบอยู่กลางทุ่งนาร้าง และอยู่ห่างจากถนนประมาณ 300 เมตร โดย พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ได้สั่งการให้กองกำลังในพื้นที่ระดมเข้ามายังจุดเกิดเหตุพร้อมกระจายกำลังปิดล้อมในรัศมี 300 เมตร เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายน่าจะกบดานอยู่ในป่าดังกล่าว จากนั้นจึงได้มีการประชุมวางแผนในการโอบล้อมไม่ให้คนร้ายใช้พื้นที่ป่าหลบหนี เนื่องจากเชื่อว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะชำนาญพื้นที่ พร้อมประสานไปยังผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่นเพื่อทำการเจรจาให้คนร้ายมอบตัว ตามนโยบายแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ต้องการปฏิบัติภารกิจจากเบาไปหาหนักและเพื่อลดความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ไม่ให้เกิดขึ้นอีก

 

 

 

 

ด้าน พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี เปิดเผยว่า สืบต่อจากเมื่อวานนี้ คนร้ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกันที่ถูกวิสามัญ 2 ศพเมื่อวานนี้ และเป็นกลุ่มที่เชื่อมโยงกับ นายยาการียา บาโง แกนนำคนสำคัญมีหมายจับ 19 หมายที่รับผิดชอบในการก่อเหตุใน จ.ปัตตานี ซึ่งการติดตามไล่ลาจากเมื่อวานปรากฏว่ามาถึงพื้นที่จุดนี้ คนร้ายได้ประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่จึงเปิดฉากยิงใส่ด้วยอาวุธสงครามจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น ขณะนี้ทางหน่วยกำลังได้มีการปิดล้อมพื้นที่และสกัดกั้นเส้นทางหลบหนีไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเข้าออกหรือพื้นที่ป่าโดยรอบ รวมไปถึงหมู่บ้านข้างเคียงก็มีการประสานไปยัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้เฝ้าดูพฤติกรรมคนในหมู่บ้านเกรงว่าจะมีการส่งเสบียงหรือเคลื่อนไหวออกมาช่วยเหลือคนร้ายกลุ่มนี้ตนขอยืนยันว่าการปฏิบัติทุกครั้งเราจะให้การเจรจาก่อนเป็นหลัก ไม่ต้องการความสูญเสียอย่างที่ผ่านมา

 

 

 

 

ทั้งเจ้าหน้าที่หรือฝ่ายตรงข้ามหากรู้ตัวชัดเจนว่าบุคคลที่หลบซ่อนตัวเราก็จะเชิญผู้ปกครองมาเจรจาเพราะเชื่อว่าถ้าผู้ปกครองมาทำการเจรจาตรงนี้คนร้ายซึ่งเป็นบุตรหลาน จะลดความกดดัน ก็น่าจะออกมามอบตัว ส่วนการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวนั้น ฝ่ายปฏิบัติการณ์ทางอากาศได้นำเครื่องบินแบบโดร่นบินตรวจสอบโดยรอบก็พบความเคลื่อนไหวของคนร้ายซึ่งยังคงหลบซ่อนตัวโดยใช้ต้นไม้สูงปิดบังตัวเองไว้ และคาดว่าวันนี้เราจะได้ตัวคนร้ายแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง