นายกฯ ยังคงติดตามน้ำท่วมใกล้ชิด - ปัตตานีอ่วมหนักสุดในรอบ 9 ปี
วันนี้ (29 ธ.ค. 66) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดตามและรับรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่ขณะนี้มวลน้ำไหลไปที่จังหวัดปัตตานีแล้ว ทำให้จังหวัดมีน้ำท่วมสูง อย่างไรก็ตาม ยังห่วงประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานความมั่นคง ร่วมกันช่วยเหลือประชาชน ทั้ง อาหาร น้ำ ของใช้จำเป็น และยา อย่าให้ประชาชนเดือดร้อน ต้องช่วยเหลืออย่างทั่วถึง แม้ในพื้นที่ห่างไกล ที่ประชาชน ออกมาไม่ได้
ทั้งนี้ นายกฯ ยังย้ำเรื่องการเตือนภัยและอพยพประชาชนหากจำเป็นก็ต้องทำ ส่วนเรื่องการเยียวยา นายกฯให้ความมั่นใจ ประชาชนทุกคนที่ประสบภัยจะได้รับการเยียวยา ฟื้นฟูทันทีเช่นกัน
นอกจากนี้ นายกฯขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และทุกหน่วยงานที่ทุ่มเท เสียสละเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยด้วย
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีล่าสุดยังคงวิกฤติ มวลน้ำจากตอนบนจังหวัดยะลายังคงไหลมาลงแม่น้ำปัตตานีต่อเนื่องก่อนระบายลงสู่ทะเล ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำยังคงสูงขึ้น ส่งผลให้อำเภอที่ติดกับริมแม่น้ำปัตตานีน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมขยายวงกว้าง ณ ขณะนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ถือว่าหนักสุดในรอบ 9 ปี
ขณะที่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีบ้านเรือนอาศัยติดกับริมแม่น้ำ ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะ ต.จะบังติกอ น้ำท่วมสูง 60-70 ซม. เข้าท่วมบ้านเรือนหลายจุด ถนนจมอยู่ใต้น้ำ เจ้าหน้าที่ต้องนำแผงกั้นมาปิดเส้นทางชั่วคราว มีเพียงเส้นทางเดียวที่สามารถใช้ได้คือเส้นทาง ถนนยะรังหน้ามัสยิดกลางปัตตานี เช่นเดียวกับถนนจะบังติกอ เส้นไปยังตลาดท้ายมีท่วมน้ำสูง 40 ซม. และถนนสะบารังมีท่วมท่วมสูง 30 ซม. เจ้าหน้าที่ก็ได้มีการปิดเส้นทางเช่นเดียวกันห้ามรถทุกชนิดใช้เส้นทางดังกล่าว
นอกจากนี้ ถ.พิพิธ ซึ่งเป็นยานเศรษฐกิจเกิดน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซม. ร้านค้าต่าง ๆ ที่อยู่ทั้งสองฝั่งถนนได้นำกระสอบทรายนำมากั้นน้ำบริเวณหน้าร้าน เนื่องจากหลายร้านมีความกังวลระดับจะเพิ่มสูงขึ้นอีก ประกอบกับป้องกันไม่ให้รถพัดน้ำเข้ามาในร้าน อีกเส้นทางหนึ่งที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก คือ ถนนหนองจิก ตั้งแต่ 4 แยกดอนรัก ห้างบิ๊กซี จนถึงซุ้มประเมืองปัตตานีระยะทาง 3 กิโลเมตรมีน้ำท่วมสูง ทำให้ถนนจมอยู่ใต้น้ำฝั่งขาออกเทศบาลเมืองปัตตานีมีท่วมสูง 30-40 ซม. รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ต้องใช้เลนเดียวในการสัญจรคือฝั่งขาเข้าเทศบาลเมืองปัตตานี ทำให้การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการนำกระสอบทรายมากั้นทางน้ำใต้ซุ้มประตูเมืองเพื่อไม่ให้น้ำทะลักเข้าสู่ถนนเจริฐประดิษฐ์ บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา ซึ่งหากน้ำทะลักเข้ามาก็จะส่งผลกระทบร้านค้าอีกจำนวนมาก โดยในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีขณะนี้มีร้านค้าต่างๆได้รับผลกระทบหลายร้อยร้านค้า นอกจากนี้พื้นที่ ต.รูสะมิแล เขตเมือง หลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายร้อยหลัง ทั้งนี้สืบเนื่องการท่อระบายน้ำไม่สามารถระบายน้ำออกได้ และเป็นพื้นที่ไม่มีทางไหลของน้ำทำให้บ้านจมน้ำ
อย่างไรก็ตามเทศบาลเมืองปัตตานีได้ประกาศเสียงตามสายให้พี่น้องประชาชนอาศัยติดริมแม่น้ำเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชนิด หากบ้านใดอยู่ในเกณฑ์ท่วมสูงมิดหัวให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำการอพยพทันที ซึ่งขณะนี้ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีได้มีการใช้เครื่องสูบน้ำตั้งทุกจุดเพื่อให้น้ำในท่อระบายอย่างคล่องตัว ที่ผ่านมาเทศบาลเมืองได้มีการป้องกันเพื่อกระทบน้อยสุด แต่เนื่องด้วยมีมวลน้ำมาก ทำให้การระบายน้ำค่อนข้างช้า
ภาพจาก: ทำเนียบรัฐบาล, ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดปัตตานี