รีเซต

3 โบรกฯ ส่องหุ้นไทยบ่ายนี้ คาดพักฐานต่อ นลท.รอดูตัวเลขศก.สหรัฐ

3 โบรกฯ ส่องหุ้นไทยบ่ายนี้ คาดพักฐานต่อ นลท.รอดูตัวเลขศก.สหรัฐ
ทันหุ้น
1 กันยายน 2565 ( 13:50 )
44

#ทันหุ้น-บล.กสิกรไทย คาดตลาดหุ้นไทยช่วงบ่ายแกว่งตัวในกรอบ 1,616-1,630 จุด ประเมินยังไม่มีประเด็นอะไรใหม่ ตลาดจะยังรอตัวเขการจ้างงานสหรัฐ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ส.ค. ในวันพรุ่งนี้ 

 

ขณะที่ในเดือน ก.ย. นี้ฝ่ายวิจัย ประเมินดัชนีจะยังผันผวน คาดตลาดหุ้นไทยจะ outperform ตลาดหุ้นทั่วโลก ที่กำลังปรับฐาน โดยมีปัจจัยหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้ามากขึ้น, อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำ และเงินบาทที่อ่อนค่า เนื่องจากธปท. จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อสนับสนุนสภาวะเศรษบกิจ, การใช้จ่ายภาคเอกชนในประเทศที่ดีขึ้นก่อนการเลือกตั้งในปี 2566 จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาล การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการใช้จ่ายเงินของพรรคการเมืองเพื่อหาเสียงเลือกตั้ง

 

นอกจากนี้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง, กระแสเงินทุนไหลเข้า และผลผลิตภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นจากปรากฏการณ์ลานีญาซึ่งส่งผลให้ปริมาณฝนตกลงมากกว่าปกติ นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติที่มีสถานะซื้อสุทธิที่ 1.7 แสนล้านบาทนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ยังกระจายพอร์ตลงทุนจากประเทศที่มีความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์สูง (จีน ญี่ปุ่น ไต้หวันและเกาหลีใต้) ปัจจัยเสี่ยงหลักในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2565 ได้แก่ 1) อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงซึ่ง ส่งผลให้เฟดต้องดำเนินนโยบายการเงินอย่างเข้มงวด  2) ปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุโรปจากปัญหาพลังงานขาดแคลน 

 

3) ปัจจัยเสี่ยงที่สภาวะเศรษฐกิจจีนจะอ่อนตัวลงอีกจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์และตลาดอสังหาฯ ที่อ่อนตัวลงและ 4 ) เงื่อนไขทางการเงินตึงตัวอาจส่งผลกระทบต่อราคาทรัพย์สินและทำให้ตลาดหุ้นถูก  de-rate

 

ด้านบล.เอเซีย พลัส ระบุว่าความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก จากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด และ ECB ส่วนล่าสุดถูกกดดันเพิ่มจากการรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตจีนเดือน ส.ค. อยู่ที่ 49.5 ถือว่าเข้าสู่ภาวะหดตัวและต่ำกว่าเดือนก่อน 50.4 กดดันต่อบรรยากาศการลงทุนต่อตลาดหุ้นโลกและราคาน้ำมันดิบ ทำให้ดัชนีบ่ายนี้ยังแกว่งพักฐานแต่เชื่อว่าการปรับลงจะเริ่มจำกัดในช่วง 1,617-1,630 จุด 

 

กลยุทธ์การลงทุนชอบหุ้นที่ประกอบการฟื้นตัวแกร่งในช่วงครึ่งหลังปีนี้ ชอบ CK, CENTE, L M , HMPRO, CKP และ BDMS และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยฯขาขึ้น BLA ,SCB และ KTB

 

สำหรับประเด็นติดตามวันนี้อยู่ที่การรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือน ส.ค.ของยุโรป 49.7 ทรงตัวจากเดือนก่อนและสหรัฐฯคาด 52.0 ชะลอจากเดือนก่อน 52.8

 

บล.โกลเบล็ก คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับตัวลงตามตลาดในภูมิภาคจากความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ECB และการประกาศอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ อย่างไรก็ตาม Fund Flow ที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นตัวพยุงดัชนี โดยมีแนวรับที่ 1,620 จุด และแนวต้านที่ 1,635 จุด 

 

ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นภาคเช้ามีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ หลังตลาดกังวลการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของเฟด อาจทำให้เศรษฐกิจถดถอย ความกังวลดังกล่าวสะท้อนผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้น จึงส่งผลให้ตลาดทั่วโลกเผชิญแรงเทขาย กดดันให้ดัชนีพักเที่ยงปิดที่ 1,624.79 จุด ลบ 14.14 จุด หรือ 0.86% มีมูลค่าการซื้อขาย 44,097 ล้านบาท 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง