สัญญาณเตือน! ไทยเสี่ยงสูงระบาดซ้ำ เคสตัวอย่างนักบอลติดโควิด
วันนี้ ( 12 ก.ย. 63 )รองศาสตราจารย์นายแพทย์ ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กระบุว่า ทั่วโลกติดเชื้อโควิด-19 เพื่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรวมกว่า 28 ล้าน 6 แสนคน เสียชีวิตกว่า 9 แสนคน โดยสหรัฐอเมริกายังทำสถิติสูงที่สุดในโลก รองลงมาคืออินเดีย บราซิล รัสเซีย และเปรู
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านคือเมียนมายังน่าเป็นห่วงมาก เพราะติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทยเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้น ที่สำคัญคือพบในเขตเมือง ทั้งกทม.และปริมณฑล และต่างจังหวัด
การกระจายลักษณะที่เห็นนี้ เป็นไปแบบเดียวกับหลายๆ ประเทศที่มีการระบาดซ้ำมาก่อนหน้าเมืองไทย และถือเป็นสัญญาณเตือนให้พวกเราทุกคนต้องตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่า มีความเสี่ยงสูงที่จะระบาดซ้ำอย่างรวดเร็ว หากไม่ช่วยกันป้องกันตัวอย่างเต็มที่ ปรากฏการณ์ระบาดซ้ำแบบที่เกิดในประเทศอื่นๆ ขอเรียกว่า ระบาดแบบพลุดาวกระจาย หากปล่อยให้เกิดขึ้น จะแพร่วงกว้างอย่างรวดเร็ว คุมได้ยาก ใช้เวลานาน และที่สำคัญคือตามหาต้นตอลำบาก ไม่เหมือนระลอกแรกที่จะหาต้นตอง่ายกว่า
สำหรับเคสนักฟุตบอลล่าสุด ความเห็นส่วนตัวคิดว่า มีแนวโน้มติดเชื้อภายในประเทศมากกว่าการหลุดจากระบบ 14 วัน แม้จะเป็นไปได้ทั้งสองทางก็ตาม เหตุผลของการประเมินเช่นนี้เพราะกรอบเวลาและบริบทแวดล้อมตอนนี้ ชี้ให้เห็นว่าเรามีการติดเชื้อภายในประเทศอยู่ และไม่ทราบต้นตอ และมีหลายรายที่เห็นในช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการเกิดติดเชื้อในประเทศซ้ำคือ เกิดจากการนำเข้ามาจากต่างประเทศ จะโดยผ่านการเปิดรับกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ซึ่งตรงกับที่เคยคาดการณ์ไว้ว่า จะเห็นเคสติดเชื้อในประเทศภายใน 4-6 สัปดาห์หลังจากแง้มประตูประเทศ
ระบบกักตัว 14 วันนั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะในทุกๆ 100,000 คน ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จะมีการตรวจพบการติดเชื้อราว 500 คน และระบบมาตรฐานที่มีจะมีโอกาสที่เคสหลุดรอดจาก 14 วันนี้ไปได้ราว 2-65 คน
สิ่งที่ต้องทำคือ 1.ประชาชนชาวไทยควรยกการ์ดขึ้นมา ระวังตัวในการใช้ชีวิตเสมอ อย่าเดินทางบ่อยในช่วงนี้ หากคิดจะเที่ยวต้องเที่ยวอย่างมีสติ ใส่หน้ากากเสมอ ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างคนอื่นหนึ่งเมตร พูดน้อยๆ พบคนน้อยลงสั้นลง เลี่ยงที่แออัดที่ชุมนุม ที่อโคจร และคอยสังเกตอาการตนเองและครอบครัว หากไม่สบายต้องหยุดงานหยุดเรียน และรีบไปตรวจ
2.ธุรกิจห้างร้านและครัวเรือนที่ใช้แรงงานต่างด้าว ควรขึ้นทะเบียนให้เรียบร้อย และพาไปตรวจคัดกรอง COVID-19
3. ธุรกิจห้างร้านต่างๆ รวมถึงหน่วยงานบริการภาครัฐ ต้องสร้างวัฒนธรรมต้อนรับและให้บริการ"คนที่ป้องกันตัวเองและสังคม" หากพบใครไม่ใส่หน้ากาก ควรแจ้งให้ใส่หน้ากากเสมอ หากไม่ใส่ไม่ควรให้บริการ
4.รัฐควรเร่งสร้างจุดบริการตรวจ COVID-19 ทั้งแบบแยงจมูก แบบตรวจน้ำลาย และตรวจเลือด ให้ครอบคลุมเป็นเครือข่ายทุกพื้นที่ และออกรูปแบบบริการ ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและธุรกิจห้างร้านทราบ
5.รัฐควรทบทวนนโยบายการเปิดรับกลุ่มเป้าหมาย 11 กลุ่ม ที่ประกาศไปในระยะที่ 6 โดยพิจารณาเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้น
6. รัฐควรลด ละ เลิก การวางแผนขับเคลื่อนนโยบายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ควรชะลอไปก่อนอย่างน้อย 6 เดือน แล้วค่อยประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline