เตือนครั้งที่2! เจ้าท่า เพิ่มมาตรการปลอดภัย สั่งเรือลากพ่วงต้องมีเรือโยงท้ายเมื่อผ่านสะพาน
เตือนครั้งที่ 2! เจ้าท่า เพิ่มมาตรการปลอดภัย เดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เรือลากพ่วงมีเรือโยงท้ายหรือดึงท้าย เมื่อผ่านสะพานที่ข้ามลำน้ำ หลังเรือลากจูงชนตอม่อสะพาน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 ส.ค. 65 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา รายงานความคืบหน้า เหตุเรือลำเลียง กระแทกเสาตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (เลี่ยงเมือง 356) อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ได้จัดส่งเรือตรวจการณ์ 186 เข้าตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่ คือ เสากันกระแทกตอม่อของสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ได้รับความเสียหาย และได้ประสาน แขวงทางหลวงอยุธยา เพื่อเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพาน ขณะที่เจ้าพนักงานตรวจเรือ เข้าตรวจสอบความเสียหายของตัวเรือในเบื้องต้น และควบคุมเรือเข้าจอดในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงตัวเรือ
สำหรับตัวเรือที่ถูกกระแทก พบอยู่ทางฝั่งขวา ด้านข้างเรือมีรอยกระแทกเห็นชัด พนักงานตรวจเรือเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยาฯ ลงไปตรวจสอบจุดที่มีรอย ทั้งด้านนอกและด้านใน เรือลำดังกล่าวบรรทุกดินมาจากท่าเรือ อ.บ่อโพง จ.อยุธยาฯปลายทาง กทม.
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. นายธีรธร นาคสุข ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยาฯ บอกว่า ขณะนี้กำลังสอบสวนเพิ่มเติม ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องใด และจะออกข้อบังคับเดินเรือเพิ่มเติมสำหรับการเดินเรือช่วงน้ำหลากนี้ คือ ให้เรือลากพ่วงทุกพ่วง จะต้องมีเรือโต่งท้าย หรือดึงท้าย เมื่อผ่านสะพานที่ข้ามลำน้ำในพื้นที่
ก่อนหน้านี้ น.ท.รัชตะ ผกาฟุ้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 2 (อยุธยาฯ) มอบให้เจ้าท่าฯ สาขาอยุธยา และเจ้าท่าฯ สาขานนทบุรี ออกแจ้งเตือนชาวเรือที่เดินเรือสินค้า และเรือท่องเที่ยวในลำน้ำเจ้าพระยา เขต จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ให้ระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรในลำน้ำช่วงนี้ เนื่องจากเข้าสู่น้ำหลาก กระแสน้ำแรง และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะเดินเรือได้
ใน 2 จุด คือ ช่วง จ.พระนครศรีอยุธยา จุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก หน้าวัดพนัญเชิงฯ จุดนี้กระแสน้ำจะไหลแรงมาก ชาวเรือจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเคยเกิดอุบัติเหตุในช่วงน้ำหลากเกือบทุกปี
จุดที่ 2 คือ บริเวณเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี จุดนี้จะเป็นทางน้ำสำหรับเรือผ่าน เพราะฉะนั้นต้องระวังท้าย หรือพ่งเรือกระแทกเข้ากับฝั่งเกาะเกร็ด ต้องมีเรือโยงท้ายพ่วงคอยประคองป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ
และยังกำหนดเขตควบคุมการจราจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่บริเวณแยกวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครฯ ขึ้นไปจนถึง จ.อ่างทอง และ แม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่บริเวณแยกวัดพนัญเชิงวรวิหาร อ.พระนครฯ ไปจนถึง อ.นครหลวง จ.อยุธยาฯ
และมีคำสั่งให้เรือลากจูงลำเลียงสินค้า ลากจูงเรือได้ไม่เกินพ่วงละ 3 ลำ ห้ามบรรทุกสินค้าเกินกว่ากำหนดจำนวนที่เจ้าท่าอนุญาตไว้