รีเซต

สปสช.จับมือร้านยากว่า 1.5 พันแห่ง แจก ATK กลุ่มเสี่ยงรอบ 2 เริ่ม 1 มี.ค.นี้

สปสช.จับมือร้านยากว่า 1.5 พันแห่ง แจก ATK กลุ่มเสี่ยงรอบ 2 เริ่ม 1 มี.ค.นี้
มติชน
24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 15:14 )
78

ข่าววันนี้ 24 กุมภาพันธ์ นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ ถึงแนวทางการแจก ATK ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิรอบ 2 ดูแลคนไทยเข้าถึงการตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง โดยมี นายธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม เข้าร่วม

 

 

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึงแม้จะมีอาการที่รุนแรงลดลง แต่ก็ยังทำให้ยังมีความต้องการใช้เอทีเค เพื่อตรวจหาเชื้อด้วยตนเองเป็นจำนวนมาก ด้วยนโยบายรัฐบาล และคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีมติในการขยายกระจายชุดตรวจเอทีเคสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในรอบที่ 2 เพื่อเป็นการเพิ่มการเข้าถึงชุดตรวจเอทีเค เพื่อลดผลกระทบหรือภาระงบประมาณของประชาชน

 

“ในการกระจายเอทีเค สปสช.ได้ร่วมมือกับสภาเภสัชกรรม ธนาคารกรุงไทย โดยวันนี้ได้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานบริการที่จะช่วยกระจายชุดตรวจเอทีเค ได้แก่ ร้านยา คลินิกพยาบาล คลินิกกายภาพบำบัด หน่วยการแพทย์ หน่วยบริการอื่นๆไม่น้อยกว่า 2,000 แห่ง โดย สปสช. จะเป็นกลไกกลาง ที่ทำหน้าที่ช่วยหน่วยงานต่างๆ กระจายเอทีเคให้แก่ประชาชน” นพ.จเด็จ กล่าว

 

เลชาธิการ สปสช. กล่าวว่า ครั้งนี้ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงยังคงใช้หลักการเดิม และวิธีการเดิม คือ เข้าไปประเมินความเสี่ยงผ่านแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” หลังจากนั้นในแอพพ์ฯ จะแสดงขึ้นมา ว่าหน่วยบริการใดที่มีความพร้อมในการแจกชุดตรวจเอทีเคให้แก่ท่าน โดยสามารถนำคิวอาร์โค้ดที่เกิดขึ้นจากการประเมินดังกล่าวไปรับชุดตรวจยังหน่วยบริการที่ใกล้ที่สุด

 

“แต่ถ้าหากท่านไม่มีแอพพ์ฯ แต่ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงสามารถเดินไปที่หน่วยบริการที่ใกล้บ้านที่มีบริการชุดตรวจ โดยสามารถตรวจสอบหน่วยบริการผ่านเว็บไซต์ได้ หรือสามารถโทรศัพท์เข้ามาที่สายด่วน 1330 ได้ โดยจะแจกชุดตรวจเอทีเคให้คนละ 2 ชุด เนื่องจากในระยะทิศต้องกักตัวอาจจะต้องตรวจอีกครั้ง” นพ.จเด็จ กล่าวและว่าขอย้ำว่าประชาชนที่เข้ารับชุดตรวจจะไม่ต้องเสียค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น ค่าใช้จ่ายทั้งหมด สปสช. จะจ่ายไปยังหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการตามราคาที่ตกลงกัน จะให้ประชาชนได้รับชุดตรวจอย่างทั่วถึง และป้องกันการแพร่กระจายเชื้อต่อไป

 

 

ด้านนายธวัชชัย กล่าวว่า สำหรับประชาชนคนไทยทุกสิทธิที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ระบบแอพพ์ฯ เป๋าตัง พร้อมให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในเฟสแรกมีการกระจายชุดตรวจไปแล้วกว่า 3.5 ล้านราย สามารถบันทึกข้อมูลให้กับ สปสช. ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว และช่วยให้ผู้ที่มีผลตรวจเป็นบวก สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว

 

“แอพพ์ฯ เป๋าตังได้พัฒนาฟีเจอร์ กระเป๋าสุขภาพ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การให้บริการการลงทะเบียน ยืนยันตัวตน ค้นหาสถานพยาบาล นัดหมาย รวมถึงการประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดจากการติดเชื้อโควิด-19 และขอรับชุดตรวจเอทีเคได้จากสถานบริการที่กำหนดอย่างไม่มีค่าใช้จ่าย ทางนี้จุดที่ต้องการเน้นย้ำคือ การยืนยันตัวตนที่เป็นไปตามมาตรฐานและกฏเกณฑ์ ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าผู้รับบริการเป็นคนเดียวกับเจ้าของกระเป๋าสุขภาพ เพื่อให้เข้าถึงสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ” นายธวัชชัย กล่าวและว่า สำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ก็สามารถเข้ารับการบริการได้ โดยการใช้บัตรประชาชนไปยืนยันตัวตนที่หน่วยรับบริการหรือสถานพยาบาลที่กำหนดไว้

 

 

รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนมีความกังวลของการกระจายเชื้อมากขึ้น การที่ได้รับชุดตรวจเพื่อที่จะได้ประเมินตนเองด้วยชุดตรวจเอทีเค เภสัชกรที่ร้านยามีส่วนทั้งหมด 1,500 กว่าร้าน ที่จะให้บริการ ซึ่งถ้าเปิดให้บริการจะมีสัญลักษณ์ที่หน้าร้าน แล้วจะขึ้นอยู่ในแพลตฟอร์มของแอพพ์ฯ ด้วยเช่นกัน หากเข้าไปลงทะเบียนในแพลตฟอร์มดังกล่าวแล้วก็จะได้รู้ว่ามีร้านใกล้บ้านร้านไหนที่เข้าร่วมแจกชุดตรวจฟรีบ้าง โดยเภสัชกรจะให้ความรู้ในการใช้ชุดตรวจ และหลังจากการรับรู้ผลตรวจแล้ว หากพบผลตรวจเป็นบวก เภสัชกรจะประสานงานเพื่อเข้ารับการรักษาต่อไป หากรายใดมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านอาการที่รุนแรงขึ้นก็จะมีการส่งต่อ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแจกเอทีเครอบ 2 จะเริ่มแจกเมื่อไร นพ.จเด็จ กล่าวว่า จะเริ่มแจกในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ซึ่งในช่วงนี้กำลังเริ่มที่จะกระจายชุดตรวจเอทีเค แต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ ทุกหน่วยบริการของเราจะพร้อม ทั้งนี้หากไม่ทราบว่าจะสามารถรับชุดตรวจได้ที่ไหน สามารถตรวจสอบได้จากแอพพ์ฯ หรือเพิ่มเพื่อนในไลน์ @nhso

 

เมื่อถามต่อว่า ถ้ารับชุดตรวจเอทีเคไปแล้ว มีวิธีการในการจัดเก็บอย่างไรให้ชุดตรวจมีประสิทธิภาพอยู่ รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ กล่าวว่า สามารถจัดเก็บในอุณหภูมิห้องปกติ และอย่าให้ถูกความร้อนมาก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น

 

“ขอเน้นว่า ประชาชนที่จะไปเข้ารับบริการ ถ้าอยู่ในภาวะที่เป็นกลุ่มเสี่ยงแล้วให้มาเข้ารับบริการ แต่ถ้าไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยง เพียงแค่อยากตรวจอาจจะยังไม่จำเป็น ดังนั้น เวลาเข้าไปร้าน เภสัชอาจจะมีการประเมินอาการอีกรอบ ซึ่งประชาชนยังไม่ต้องรีบ เพราะ สปสช.ได้ปรับระบบให้ร้านยาแต่ละร้านสำรองชุดตรวจไว้ และจะมีการเตรียมชุดตรวจไว้อย่างเพียงพอไม่จำเป็นว่าการแจกวันแรกจะต้องรีบเข้าไป ถ้าเรายังไม่เสี่ยงไม่ต้องเข้าไป แต่ถ้าเสี่ยงแล้วให้รีบเข้าไปรับชุดตรวจทันที” รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนหากตรวจเอทีเคด้วยตนเองแล้วขึ้น 2 ขีด ติดเชื้อโควิด-19 สามารถลงทะเบียนสู่ระบบ Home Isolation ด้วย 3 ช่องทาง ดังนี้ ช่องทางที่ 1. โทร.สายด่วน สปสช. 1330 กด 14 ช่องทางที่ 2. ลงทะเบียนด้วยตนเองที่ https://crmsup.nhso.go.th/#TicketHI ช่องทางที่ 3. ไลน์ สปสช. โดยเพิ่มเพื่อน พิมพ์ @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เลือกเมนูบริการเกี่ยวกับโควิด-19 และเลือกลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้าน (Home Isolation)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง