ชาวโคราชที่อยู่ในเหตุการณ์กราดยิง อัดยับ VTuber ทำคลิปรีแอคชั่นล้อเลียน
ชาวโคราชที่อยู่ในเหตุการณ์กราดยิง อัดยับวีทูบเบอร์ นำเหตุการณ์กราดยิงมารีแอคชั่นล้อเลียน ระบุอย่าเอาเรื่องความสูญเสียมาหายอดวิว จี้ให้ออกมาขอโทษชาวโคราช
นครราชสีมา – จากกรณีที่มีวีทูบเบอร์ช่องหนึ่ง ได้นำเหตุการณ์กราดยิง ที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เมื่อปี พ.ศ. 2563 มาทำรีแอคชั่น โดยเป็นการนำภาพจากกูเกิ้ลสตรีตวิว จุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์กราดยิง พร้อมทั้งนำภาพผู้ก่อเหตุกราดยิง มาพูดเล่น ล้อเลียน หัวเราะสนุกสนานตลอดทั้งคลิป เหมือนเป็นการไม่ให้เกียรติผู้สูญเสียต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์และความไม่พึงพอใจต่อคนในสังคมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงและสูญเสียที่สุดครั้งหนึ่งของไทย
ล่าสุด วันนี้ (8 ก.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณห้างสรรพสินค้า เทอร์มินอล 21 นครราชสีมา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่า มีประชาชนเข้าไปจับจ่ายซื้อของกันตามปกติ จากการสอบถามนายวิภูริ สนั่นพิทักษ์ อายุ 48 ปี วินมอเตอร์ไซค์หน้าห้าง เทอร์มินอล 21 โคราช บอกว่า ตนเองเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์กราดยิงครั้งนั้น เหตุการณ์วันนั้น เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ไม่น่าจะเกิดขึ้นแบบนี้ มีคนเอาปืนมายิง ก็ตกใจ วันนั้นตนรอรับผู้โดยสารเป็นคิวที่ 1 ยืนหาผู้โดยสารอยู่ เขาบอกว่ามีคนยิงกัน ก็ยืนดู คิดว่าเขามาจับพวกยาเสพติด มีผู้หญิงเหมือนโดนกระจกบาดที่หู มาบอกมีคนยิงกัน ก็วิ่งมาหลบที่ใต้สะพานลอย ก็เห็นคนรถล้ม ข้างๆ ก็มีคนรถล้มไส้ไหล เลยตกใจก็วิ่งเข้าห้างไปอยู่ชั้นใต้ดินของห้าง ก็รู้สึกกลัวมาก เห็นคนเจ็บ คนตาย จึงไปหลบซ่อนตรงที่มีคนไม่เยอะ ที่บู๊ธการไฟฟ้า มีน้องผู้หญิงอีกคนหนึ่ง เช็คสถานการณ์ในโซเชี่ยลตลอด น้องอีกคนก็แจ้งพิกัดให้กับหน่วยงานที่จะเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตนได้รับการช่วยเหลือออกมาอีกที ตอนตี 3 และมาทราบภายหลังว่า มีภรรยาของเพื่อนที่ขับวินมอเตอร์ไซค์ด้วยกัน ที่ทำงานอยู่ในฟู้ดแลนด์ถูกยิงเสียชีวิตด้วย ทำให้ทุกคนในวินรู้สึกเสียใจมาก แม้ว่าตอนนี้ผ่านเหตุการณ์มาหลายปีแล้ว ภาพเหตุการณ์เหล่านั้นก็ยังติดตาอยู่เลย
“ก็รู้สึกเสียใจกับคนที่สูญเสียกับเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้น แต่พอมีคนเอาคลิปมาทำรีแอคชั่น ล้อเลียน มันก็รู้สึกไม่ดี ถ้าเอามาทำก็ควรจะทำในลักษณะเพื่อรำลึกถึงและไว้อาลัยกับผู้สูญเสียดีกว่า ไม่ใช่เอามาทำเพื่อหายอดวิว ตนก็รู้สึกไม่ดี ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องทำจะดีกว่า อยากให้เขาออกมาขอโทษ เพราะคนที่สูญเสียก็เจ็บปวด คนที่ทำเขาไม่ได้รับรู้ เขาอาจจะมองว่ามันนานแล้ว แต่สำหรับคนที่อยู่ในเหตุการณ์ คนที่สูญเสียครอบครัวไป ยังไม่ลืมภาพเหตุการณ์เหล่านี้แน่นอน”