รีเซต

เฝ้าระวัง! กรมชลฯ เตือนหลังพายุโมลาเบถล่มไทย ส่งผลน้ำในเขื่อนลำพระเพลิงเพิ่มสูงอีกรอบ

เฝ้าระวัง! กรมชลฯ เตือนหลังพายุโมลาเบถล่มไทย ส่งผลน้ำในเขื่อนลำพระเพลิงเพิ่มสูงอีกรอบ
มติชน
1 พฤศจิกายน 2563 ( 11:13 )
79

นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้สั่งการผ่าน นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ให้ติดตามแนวทางการให้ความช่วยเกษตรกรอย่างทั่วถึง ตลอดจนวางแผนการบริหารจัดการน้ำ โดยการผันน้ำส่วนเกินไปเก็บกักตามแหล่งน้ำต่างๆ ให้เพียงพอสำหรับทุกกิจกรรมในช่วงฤดูแล้งหน้า ด้วยการ กำหนดผู้รับผิดชอบ กำหนดพื้นที่เสี่ยง กำหนดทรัพยากรเครื่องจักรเครื่องมือ พร้อมปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง

นายสัญญา กล่าวต่อว่า โดยเน้นย้ำให้ตรวจสอบความมั่นคงของอาคารชลประทานต่างๆ ให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเกิน 80% พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด พิจารณาปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมกับพื้นที่สอดคล้องกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำไหลที่เข้าเขื่อน ควบคู่ไปกับการเก็บกัก โดยผันเข้าพื้นที่แก้มลิงหรือบ่อธรรมชาติ รวมทั้งเร่งระบายน้ำพื้นที่ท้ายน้ำและน้ำค้างทุ่งออกให้เร็วที่สุด

ด้าน นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุ โมลาเบ ทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณเขาใหญ่อีกครั้ง วัดปริมาณฝนได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำพระเพลิงเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีปริมาณน้ำประมาณ 168.63 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 108% ของความจุอ่างฯ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ประมาณ 3.88 ล้าน ลบ.ม. และยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ได้ทำการระบายน้ำผ่านคลองธรรมชาติ และสปินเวย์ รวมประมาณ 102 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือ 8.81 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนด้านท้ายเขื่อนรับมือกับสถานการณ์แล้ว

“ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อนลำพระเพลิง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนให้ประชาชน ห้างร้าน ที่อยู่ริมตลิ่งให้ขนของขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น และขอให้รับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่หมายเลขสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา” นายทวีศักดิ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง