ญาติสุดทน ลุยแจ้งความ หนุ่มเมากร่าง ขวางรถพยาบาล ทำคนป่วยดับ
ญาติสุดทน ลุยแจ้งความ หนุ่มเมากร่าง ขวางรถพยาบาล ทำคนป่วยดับ เชื่อหากรถมาเร็ว ไม่ถูกขวาง คงไม่สูญเสีย จี้นักดื่มรับผิดชอบต่อสังคม
กรณี นายสัมฤทธิ์ มณีฤทธิ์ อายุ 38 ปี ที่อยู่ในอาการเมาขับรถปาดหน้ารถพยาบาล ของ รพ.สมุทรปราการ ที่กำลังจะเดินทางช่วยเหลือคนป่วย ที่บ้านพักในซอยวิทยุการบิน ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งเป็นผู้ป่วยอยู่ขั้นวิกฤติ แต่ระหว่างทาง นายสัมฤทธิ์ ขับรถปาดหน้ารถพยาบาลคันดังกล่าว และยังกวักมือเรียกรถพยาบาลให้จอด เนื่องจากไม่พอใจ ที่รถพยาบาล เปิดไฟไซเรน จี้ท้ายรถของตนเอง
- รวบถึงบ้าน! หนุ่มเมากร่าง ขวางรถพยาบาล สุดท้ายผู้ป่วยเสียชีวิต เจอฟันข้อหาหนัก
- ปิกอัพขับแช่ขวา ขวางรถพยาบาล แม้มีคนป่วยบนรถ แถมลงมาเดือดใส่ (คลิป)
- 2 รถตู้ขอโทษแล้ว! ขับขวางรถพยาบาล จนผู้ป่วยเสียชีวิต ขอโทษแล้ว ถูกพักงาน
ก่อนที่จะต่อว่าเจ้าหน้าที่พยาบาลที่อยู่ในรถด้วยถ้อยคำหยาบคาย ขณะเดียวกันพยาบาลได้บอกให้ชายคนดังกล่าวขับตามไปดู เพื่อจะได้รู้ว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอยู่จริงหรือไม่ แล้วชายคนดังกล่าวก็ขับรถตามไปและหลบเข้าไปในบ้าน ซึ่งอยู่ในซอยวิทยุการบิน
ต่อมา เจ้าหน้าที่พยาบาลที่อยู่ในรถ ด้นำคลิปวีดีโอที่บันทึกพฤติกรรมของนายสัมฤทธิ์ เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อเอาผิดทางกฎหมาย ส่วนผู้ป่วยได้เสียชีวิตลง เนื่องจากรถพยาบาลที่ถูกขัดขวางนั้นเดินทางไปถึงที่หมายช้า ก่อนที่ตำรวจ จะแจ้งข้อหานาย นายสัมฤทธิ์ เมาแล้วขับ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ธ.ค.63 นางณัฐฐินันท์ บริบูรณ์ ภรรยาของ ผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อติดต่อขอเอกสารเพื่อเดินทางไปรับศพสามี ที่สถาบันติเวช รพ.ตำรวจ พร้อมเข้าพบ ร.ต.อ.ชัชวาล กุลกำลัง รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอปากคำในเบื้องต้น ส่วนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับนายนายสัมฤทธิ์ ได้หรือไม่นั้น ต้องรอสอบพยานแวดล้อมและเจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมทั้งผลชันสูตรเพิ่มเติม ส่วนนายสัมฤทธิ์ ขณะนี้ยังถูกคุมขังอยู่ ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ
ด้าน นายขัน ก้านบัว อายุ 50 ปี ญาติของผู้ตาย กล่าวว่า สำหรับผู้เสียชีวิต ไม่เคยมีโรคประจำตัว ก่อนเกิดเหตุทราบว่า มีอาการชักเกร็งก่อนหมดสติ จากนั้น คนที่อยู่ในบ้านจึงได้ไปเรียกเจ้าหน้าที่กู้ที่อยู่ใกล้ๆเพื่อมาช่วยกันปั้มหัวใจ ระหว่างนั้นพบว่าผู้ป่วยอยู่ในวิกฤติ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงวิทยุร้องขอ รถโรงพยาบาลมารับ แต่กว่ารถพยาบาลจะมาถึงชีพจรของผู้ป่วยก็เริ่มอ่อนแล้ว
ทั้งนี้ตนเชื่อว่าหากรถพยาบาลไม่ถูกขัดขวาง อาจจะไม่เกิดความสูญเสีย จึงอยากฝากให้คนที่ชอบดื่มขอให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย และยืนยันว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับนายนายสัมฤทธิ์ ส่วนศพของผู้เสียชีวิต นั้นจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่ จ.เพชรบูรณ์ บ้านเกิด