Sรายได้ปี66โต30% เปิด5โครงการใหม่หมื่นล.
#S #ทันหุ้น-S วางเป้าปี 2566 รายได้โต 30% ทำนิวไฮ รับอานิสงส์ดีมานด์ท่องเที่ยวฟื้น เตรียมปรับปรุงประสิทธิภาพโรงแรมรองรับหนุนเพิ่ม ADR. 10-15% ด้านธุรกิจอสังหาจ่อโอนต่อเนื่อง ดันรายได้โต 70% ลุย 5 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ส่วนอาคารสำนักงาน-นิคมฯ ยังขยายตัวได้ดี
นายชัยรัตน์ ศิวะพรพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ไม่น้อยกว่า 30% จากปี 2565 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 12,530 ล้านบาท แรงขับเคลื่อนหลักๆ ยังคงมาจากกลุ่มธุรกิจโรงแรม (SHR) ที่มีการเติบโตที่ดีขึ้นตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่แตะระดับ 10,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อน และมี EBITDA อยู่ที่เฉลี่ยมากกว่า 25%
มองว่าผลการดำเนินงานในธุรกิจโรงแรมจะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายทั้งปีจะรักษาระดับอัตราการเข้าพักเฉลี่ยไว้ที่ระดับ 75-80% และจะมีการลงทุนพัฒนาและปรับปรุงสินทรัพย์เดิมที่มีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลักดันให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ยต่อคืน (ADR) ในปีนี้เพิ่มขึ้นได้ 10-15% จากปีก่อน ทั้งนี้ การฟื้นตัวที่เกิดขึ้นตามที่กล่าวมายังไม่นับรวมถึงการกลับมาเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีนที่คาดว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนในไตรมาส 2/2566 ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนที่จะขายสินทรัพย์ในสหราชอาณาจักรในปี 2566 อีกจำนวน 1-2 โครงการ จากปัจจุบันที่บริษัทมีสินทรัพย์ในสหราชอาณาจักรกว่า 26 โครงการ
*รายได้อสังหาโต 70%
ขณะที่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2566 บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 70% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ระดับ 2,572 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการ SANTIBURI THE RESIDENCES ที่ปัจจุบันมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ในมือกว่า 2,044 ล้านบาท แบ่งออกเป็นการรับรู้เป็นรายได้ในส่วนของการขายที่ดินปีนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท (บุ๊คเข้าปีนี้ทั้งหมด) ในส่วนที่เหลือจะเป็นการรับรู้รายได้จากการก่อสร้างที่พักอาศัยในที่ดินเปล่าที่มีการขายไปแล้วต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566-2568
ด้านโครงการ SIRANINN RESIDENCES พัฒนาการ ขนาด 28 ยูนิต มูลค่า 2,908 ล้านบาท มียอดขายแล้วกว่า 77% ซึ่งสามารถโอนไปได้แล้ว 29% หรือราว 830 ล้านบาทในไตรมาส 4/2565 คาดว่าเกือบ 60% จะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ในปีนี้ และที่เหลือในไตรมาส 1/2567 ตามลำดับ รวมถึงยังมีการรับรู้ผลดำเนินการจากโครงการ The ESSE สุขุมวิท 36 ขนาด 338 ยูนิต มูลค่า 5,901 ล้านบาท (เป็นโครงการ JV ที่ S ถือหุ้น 50%) ปัจจุบันสามารถปิดการขายไปได้แล้วกว่า 80% และมียอดโอนแล้วเกือบ 70% ของโครงการ ในส่วนที่เหลือ 30% คาดจะโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดในปีนี้
*ผุด 5 โครงการใหม่
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท ในช่วงปลายปีนี้ แบ่งออกเป็นโครงการแนวราบ 3 โครงการ และโครงการ Cluster Home จำนวน 2 โครงการ ที่คาดว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตของรายได้ในปี 2566 ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ สำหรับงบลงทุนในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัทวางไว้ที่ประมาณ 5,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี โครงสร้างรายได้ในปี 2566 ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม 63% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 26% ธุรกิจอาคารสำนักงาน 7% และธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม 4% เป็นต้น
ส่วนกลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงาน ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของรายได้หลักๆ มาจากการเช่าฟื้นที่ในโครงการ S Oasis ที่มีเป้าหมายจะเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่เป็นไม่น้อยกว่า 70% ของโครงการ ในขณะที่อีก 4 โครงการเดิมที่มี ปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ระดับราว 90% โดยบริษัทมีแผนที่จะหาพันธมิตรเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป สำหรับกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ในปีนี้บริษัทวางเป้าหมายยอดขายที่ดินไว้ที่ประมาณ 200 ไร่ จากทั้งหมด 1,000 ไร่ ซึ่งในปีก่อนได้ขายไปแล้ว 100 ไร่ โดยคาดว่าในไตรมาส 1/2566 จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับลูกค้าได้เพิ่มเติม วางงบลงทุนของทั้ง 2 ธุรกิจข้างต้นไว้ที่ราว 3,000 ล้านบาท