นายกฯ ประชุมด่วนสมช. รับมือ "โดรนปริศนา" สุวรรณภูมิ

รัฐบาลไทยยกระดับความมั่นคงขั้นสูงสุด หลังพบโดรนปริศนาบินวนรอบสนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่เวทีอาเซียนนัดพิเศษที่มาเลเซีย ไทยประกาศจุดยืนชัดเจน "กัมพูชาต้องหยุดยิงและเลิกวางระเบิด" เพื่อสันติภาพที่ยั่งยืน

ประชุม สมช. ด่วน: ปมโดรนปริศนาสุวรรณภูมิ และวิกฤตชายแดน

เมื่อเวลา 08.35 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมีวาระเร่งด่วน 2 ประเด็นหลัก หลังจากมีการตรวจพบกลุ่มโดรนไม่ทราบฝ่ายบินเข้าพื้นที่ชั้นในรอบสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายกฯ ได้สั่งการให้กองทัพอากาศเร่งตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เนื่องจากกระทบต่อความปลอดภัยการบินระดับสากล

เวทีอาเซียนนัดพิเศษไทยย้ำ 3 เงื่อนไขเหล็ก

ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนไทยเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ เพื่อหาทางออกวิกฤตไทย-กัมพูชา โดยไทยยื่นเงื่อนไข 3 ข้อ ต่อกัมพูชา ได้แก่

1. กัมพูชาต้องประกาศหยุดยิงก่อน (เนื่องจากเป็นฝ่ายเริ่มก่อน)

2. การหยุดยิงต้องเกิดขึ้นจริงและมีผู้สังเกตการณ์ต่อเนื่อง

3. กัมพูชาต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจัง

ท่าทีของฝ่ายความมั่นคง

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำว่ากองทัพอากาศกำลังตรวจสอบเรื่องโดรนอย่างละเอียด ส่วนเรื่องการเจรจาในระดับสากลต้องรอฟังผลสรุปจาก รมว.ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพไทยจะยึดถือผลประโยชน์ของชาติและอธิปไตยเป็นที่ตั้งในการประเมินสถานการณ์หน้างาน

การประชุมอาเซียนครั้งนี้ (ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม.) จะไม่มีแถลงการณ์ร่วมอย่างเป็นทางการ แต่จะเป็นการแสดงท่าทีของแต่ละประเทศ โดยไทยยืนยันว่า "สันติภาพต้องมาพร้อมความปลอดภัย" หากกัมพูชายังไม่หยุดยิงหรือร่วมมือเก็บกู้ระเบิด การเจรจาเพื่อความยั่งยืนก็ยากจะเกิดขึ้น