ช้างป่ายูนนานแยกจากโขลง กลับถึงบ้านแล้ว ส่วนที่เหลือยังเตร็ดเตร่

ช้างป่ายูนนานแยกจากโขลง - ซีเอ็นเอ็น ช้างป่ายูนนานที่แยกจากโขลง เร่ร่อนเดินทางไกล ในที่สุดก็ถึงบ้านเสียที

ช้างป่าที่เป็นดาวดังทั้งโขลง 15 ตัว ตกเป็นข่าวใหญ่ ขณะพยายามเดินทางผ่านภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเป็นระยะทางกว่า 500 กิโลเมตรข้ามดินแดนแสนทรหดในมณฑลยูนนาน ผ่านทุ่งนา หมู่บ้าน และเมืองใหญ่

สัปดาห์ที่แล้ว ช้างตัวหนึ่งที่แยกจากโขลงของมัน ถูกจับและส่งกลับไปบ้านที่อุทยานในสิบสองปันนาแล้ว หลังจากเดินทางแยกจากโขลงโดยลำพังกว่า 190 กิโลเมตร และกินอาหารที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่หามาให้และบางครั้งต้องเข้าไปหาอาหารตามหมู่บ้าน

เจ้าหน้าที่ยูนนานกล่าวว่าช้าง เพศผู้ หนัก 1.8 ตัน เดินเตร็ดเตร่อยู่ใกล้กับชุมชนทำให้เสี่ยงต่อความปลอดภัยของประชาชาชน จึงตัดสินใจยิงยาสลบและส่งกลับบ้านซึ่งสัตวแพทย์ไม่พบบาดแผลภายนอก หลังจากปล่อยคืนสู่ธรรมชาติแล้ว ช้างเดินกลับสู่ป่าฝนและแช่น้ำในแม่น้ำ

ขณะที่ช้าง 14 ตัวที่เหลือยังคงเดินทางต่อไป ท่ามกลางการจับตาอย่างใกล้ชิดโดยใช้โดรนและเจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมทั้งตำรวจหลายร้อยนาย

ซินหัว รายงานว่า สำนักงานเฝ้าติดตามการอพยพของช้างป่าโขลงนี้ระบุว่า โขลงช้างยังคงเดินเตร็ดเตร่อยู่ในป่ารอบๆ ตำบลหลงอู่ ในแคว้นปกครองตนเองหงเหอ กลุ่มชาติพันธุ์ฮาหนีและอี๋

เมื่อวันอาทิตย์ 11 ก.ค. ทางการได้ส่งเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินและเจ้าหน้าที่ตำรวจ 175 คน พาหนะ 52 คัน และโดรน 17 ลำมาปฏิบัติภารกิจ และอพยพชาวบ้าน 1,587 คน รวมถึงให้อาหาร 1.5 ตันแก่โขลงช้าง

ช้างโขลงนี้กลายเป็นที่สนใจของชาวจีนตั้งแต่เดือน มิ.ย. ผู้ชมหลายล้านคนเฝ้าชมชีวิตช้างในแต่ละวันผ่านการถ่ายทอดสดด้วยโดรนหลายตัวทำให้เห็นช้างเหยียบย่ำพืชผลการเกษตร พังห้องครัว และเมื่อไม่ได้ก่อความหายนะก็จะนอนหลับพักผ่อนด้วยกัน

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสนใจในโลกออนไลน์ลดลงเรื่อยๆ จนเหลือผู้ติดตามชมชีวิตช้างอยู่ไม่กี่คนและเป็นเวลาเดียวกันกับที่เริ่มมีคนสนใจปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการเดินทางไกลของช้าง

ผู้เชี่ยวชาญบางคนเห็นว่าช้างออกเดินทางเพื่อหาแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์กว่า

ช้างเอเชียเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมายของจีน ประกอบกับความสำเร็จในการอนุรักษ์ส่งผลให้ประชากรช้างเพิ่มจำนวนขึ้น 2 เท่า หรือประมาณ 300 ตัวในเวลา 40 ปี

แต่ในเวลาเดียวกัน ถิ่นอาศัยของช้างในยูนนานเกือบร้อยละ 40 สูญสิ้นไปเพราะการพัฒนาเชิงพาณิชย์ในรอบ 20 กว่าปีมานี้ ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว

มีการแผ้วถางป่าเพื่อเพาะปลูกยางและชาซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจของยูนนาน อีกทั้ง มีการก่อสร้างสาธารณูปโภคมากมาย ทั้งทางหลวง ทางรถไฟ โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำทำให้ต้องตัดผ่านเส้นทางอพยพของสัตว์ป่า

โขลงช้างจึงแตกออกเป็นกลุ่มย่อยๆและโดดเดี่ยวในถิ่นที่อยู่อาศัยซึ่งลดลงเรื่อยๆ ทำให้ช้างหลายตัวออกหาอาหารในพื้นที่เพาะปลูกจนเกิดเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่างคนและช้าง

สื่อทางการของจีนรายงานว่าระหว่างปี 2557-2563 รัฐบาลท้องถิ่นยูนนานจ่ายเงินชดเชยที่ช้างสร้างความเสียหายให้กับประชาชน 26 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 832 ล้านบาท

บางครั้ง ปมความขัดแย้งนำไปสู่ความตาย ระหว่างปี 2556-2562 เกิดเหตุช้างในยูนนานเหยียบคนตาย 41 ราย และบาดเจ็บอีก 32 ราย

ส่วนช้าง 15 ตัว ที่แยกออกมา 1 ตัว อยู่ห่างจากฝูงไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 4 กิโลเมตร โดยอาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าช้างตัวอื่นๆ ทำร้ายคนจนเสียชีวิตเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาใกล้กับเมืองผูเอ่อร์ทางใต้ของยูนนาน

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ต้องพยายามกันให้ช้างอยู่ห่างจากที่พักอาศัยของคนด้วยการใช้อาหารล่อและกั้นถนน แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินเพราะเจ้าหน้าที่จัดเตรียมอาหารให้ทุกวันทั้งข้าวโพด กล้วยและสับปะรดจำนวนมาก

ขณะที่รถบรรทุกตั้งแถวยาวเพื่อเป็นปราการไม่ให้ช้างเข้าไปในหมู่บ้านหรือเมืองต่างๆ แต่ชาวบ้านหลายพันคนยังต้องอพยพทุกวันเพื่อเปิดทางให้ช้าง

หนทางแก้ปัญหาในระยะยาวเพื่อไม่ให้ช้างเดินทางไกลอีก คือ การฟื้นฟูและเพิ่มพื้นที่อาศัย รวมทั้ง เชื่อมถิ่นอาศัยเข้าด้วยกัน

การอยู่ร่วมกันระหว่างคนและสัตว์ป่าเป็นปัญหารุนแรงที่เกิดขึ้นในจีน ไม่เฉพาะในยูนนานเท่านั้น เนื่องจากจีนมีการขยายความเป็นเมืองทำให้สัตว์ป่าในพื้นที่อื่นๆ ของจีนเผชิญปัญหาเดียวกันมากขึ้น โดยเฉพาะสัตว์ป่าบางสปีชีส์ที่ต้องอนุรักษ์อย่างยิ่ง

เมื่อเดือน เม.ย. เสือไซบีเรียตัวหนึ่งเดินเตร็ดเตร่ในหมู่บ้านทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนและทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งกับรถคันหนึ่งที่มีผู้โดยสารเต็มคันรถ

ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หมาป่า 3 ตัวทำร้ายชาวบ้านและฆ่าสุนัขตัวหนึ่งในมณฑลเฮย์หลงเจียง เจ้าหน้าที่ยิงหมาป่า 2 ตัวจนตาย ส่วนอีกตัวหนึ่งถูกส่งไปสวนสัตว์ใกล้เคียง

.............