เหตุประท้วง 'บังคับฉีดวัคซีนโควิด-19' ในนิวซีแลนด์ยังคุกรุ่น
เวลลิงตัน, 10 ก.พ. (ซินหัว) -- ตำรวจนิวซีแลนด์จับกุมผู้ประท้วงหลายสิบคนที่ต่อต้านมาตรการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) นับตั้งแต่วันพุธ (9 ก.พ.) ที่ผ่านมา หลังจากมีการปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงที่ปักหลักอยู่ใกล้อาคารรัฐสภา
วันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) นับเป็นวันที่ 3 ที่ผู้ประท้วงหลายร้อยคนปักหลักอยู่หน้ารัฐสภาและปฏิเสธจะเคลื่อนย้ายออกไป โดยมีรายงานเหตุข่มเหง ขว้างปาสิ่งของ และเผชิญหน้ากับตำรวจ ซึ่งถูกส่งลงควบคุมพื้นที่มากกว่า 100 นาย ขณะประชาชนถูกเตือนเลี่ยงเข้าใกล้พื้นที่เพื่อความสะดวกทางการจราจร
ผู้คนหลายร้อยรวมตัวกันในกรุงเวลลิงตันตั้งแต่วันอังคาร (8 ก.พ.) เพื่อประท้วงนโยบายสวมหน้ากากอนามัยและบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ตามเหตุประท้วงในแคนาดา โดยมีการปิดถนนนอกอาคารรัฐสภาด้วยกองรถบรรทุกและค่ายพักแรมชั่วคราว
คณะนักระบาดวิทยาชี้ว่าการประท้วงดังกล่าวเสี่ยงกลายเป็นจุดแพร่โรคโควิด-19 อย่างรุนแรง ด้านจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เรียกร้องผู้ประท้วงเคลื่อนย้ายออกไป ระบุว่าประชาชนไม่ควรทำพฤติกรรมขัดขวางการใช้ชีวิตอันเป็นปกติสุขของผู้อื่น
อาร์เดิร์นกล่าวถึงเหตุประท้วงขณะเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในโอ๊คแลนด์ ซึ่งเริ่มต้น "สัปดาห์ฉีดวัคซีนโดสกระตุ้น" ที่เชิญชวนชาวนิวซีแลนด์ฉีดวัคซีนโดสกระตุ้น ท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน
ทั้งนี้ นิวซีแลนด์รายงานการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในชุมชนเพิ่ม 306 รายในวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) โดยในจำนวนนี้อยู่ในโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุด 216 ราย