ไฟไหม้ชุมชนคลองตาเค็ดฝั่งตะวันตกสายลวดซอย 1 วอด 3 หลังคาเรือนรถยนต์เสียหายกว่า 10 คัน
เกิดเหตุไฟไหม้ชุมชนคลองตาเค็ดฝั่งตะวันตก ภายในซอยสายลวดซอย 1 ถนนสายลวด ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ไฟเผาไหม้ไป 3หลังคาเรือน พร้อมรถยนต์ที่จอดอยู่ภายในลานจอดรถเสียหายกว่า 10 คัน คาดสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ร.ต.อ.กันตพัฒน์ ชาวดอน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ภายในชุมชนคลองตาเค็ดฝั่งตะวันตก สายลวดซอย 1 ถนนสายลวด ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงเทศบาลนครสมุทรปราการ และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 10 คันเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุบริเวณกลางซอยซึ่งเป็นชุมชนหนาแน่นมีบ้านเรือนประชานปลูกสร้างอยู่ติดกันกว่า 50 หลังคาเรือน ได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านเลขที่ 1 / 6 ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น โดยไฟได้ลุกโหมอย่างรุนแรงก่อนลุกลามไปลุกไหม้บ้านข้างเคียงที่ปลูกติดกันอีกจำนวน 2 หลัง โดยเปลวเพียงได้ลุกโหมอย่างรุนแรงก่อนที่เปลวไฟจะข้ามกำแพงรั้วของลานจอดรถรายเดือนซึ่งเป็นลานจอดรถขนาดใหญ่มีรถยนต์จอดอยู่กว่าร้อยคัน
โดยเปลวไฟได้ข้ามมาลุกไหม้รถยนต์ที่จอดอยู่ในลานดังกล่าวได้รับความเสียหายหลายคัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้เปลวเพื่อขยายเป็นวงกว้างเนื่องจากบริเวณโดยรอบมีบ้านเรือนประชาชนปลูกเรียงรายกันอยู่หลายสิบหลัง ขณะเดียวกันชาวบ้านต่างพากันขนข้ามของหนีตายออกจากบ้านมากองอยู่บนถนนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาในการฉีดน้ำสกัดเพลิงอยู่นานเกือบ 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ให้อยู่ในวงจำกัดและดับลงในเวลาต่อมา
พบว่าไฟได้ลุกไหม้บ้านเรือนประชาชนจนวอดเป็นเถ้าถ่านไปจำนวน 3 หลัง ส่วนบ้านข้างเคียงถูกเปลวไปได้รับความเสียหายไปอีกกว่า 5 หลังคาเรือน ส่วนรถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถรายเดือนถูกไฟลุกไหม้ได้รับความเสียหายไปทั้งหมด 11 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุเอาไว้เพื่อประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจหาสาเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถามนายสำเริง พรหมสะอาด อายุ 56 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านพักซึ่งอยู่ด้านหน้า ได้มีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งเข้ามาในบ้านของตนจึงสะดุ้งตื่นและได้ยินเสียงคล้ายไฟช๊อต ตนและเปิดหน้าต่างออกมาดูได้เห็นไฟกำลังลุกไหม้อยู่ที่ชั้นบนบ้านของหลานสาว ซึ่งอยู่หลังบ้านตน ตนจึงรีบวิ่งลงมาไปเคาะประตูเรียกหลานสาวได้รีบหนีตายออกจากบ้านก่อนที่เหลวไฟจะลุกท่วมบ้านของหลานสาวตนและลุกลามไปลุกไหม้บ้านข้างเคียงที่ปลูกติดกันอีก 2 หลัง ตนและชาวบ้านได้พยายามช่วยกันเอาน้ำมาสาดเพื่อสกัดเพลิงแต่สกัดไม่อยู่เปลวไฟได้ลุกข้ามกำแพงเข้าไปลุกไหม้รถยนต์ที่จอดอยู่ในลานจอดรถ ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถประเมินค่าเสียหายได้เนื่องจากมีทรัพย์สินและรถยนต์ได้รับความเสีบหายเป็นจำนวนมาก ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากในจุดที่เกิดเหตุเป็นชุมชนและเป็นบ้านไม้ที่ปลูกสร้างมานานหลายสิบปีและสายไฟอยู่ในสภาพเก่า อย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป